Tuesday, May 20, 2008

เรื่องของผู้หญิงเสื้อแดง

ฉันนั่งรถเมล์กลับจากบึงหนองโง้ง ตอนบ่ายๆ วานนี้
คนเยอะมาก ตอนแรกคิดว่าไม่มีที่นั่งแล้ว
แต่ก็นะ สวรรค์ไม่กลั่นแกล้ง
เลยได้นั่งใกล้ผู้หญิงคนหนึ่ง...และเธอสวมเสื้อยืดสีแดงสด

ฉันกำลังเอ็นจอย (เมามัน) กับชาเย็นถุงโต
ซื้อมาจากร้านข้างทางแถวโรงเรียนเก่าสมัยประถม
(โตจริงๆนะ 12 บาทเองอ่ะ และอร่อยขั้นรุนแรง)
เพราะเจ้าชาเย็น..สิ่งรอบข้างเลยถูกลดความสำคัญลงไปนิโหน่ย
แต่พอทุกอย่างเข้าที่... ก็พบว่าผู้หญิงข้างๆ กำลังคุยโทรศัพท์อยู่
และนั่นก็ไม่เรื่องที่ฉันจะต้องสนใจ...ใช่ไหม

ดูเหมือนว่ามันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น...
...ถ้าเค้าไม่กำลังร้องไห้...

ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองควรทำอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้า
หรือฉันไม่ควรทำอะไร...

แต่ก็อีกนั่นแหละ...
เพราะฉันก็เคยผ่านพบกับประสบการณ์แบบนี้มาบ้าง ก็เข้าใจ...
ถ้ามันทนไหว...ก็คงไม่ร้องออกมา...จริงมั้ย?

ฉันไม่รู้หรอกว่า..ผู้หญิงเสื้อแดงคนนั้นกำลังอยู่ในภาวะแบบไหน
แล้วหล่อนร้องไห้ทำไม...
สังเกตจากอาการร้องไห้แล้ว...เป็นแบบไม่อยากให้ใครเห็น
ดังนั้นฉันจึงสรุปว่า...
เรื่องที่ทำให้หล่อนร้องไห้ก็คงไม่อยากให้ใคร(อย่างฉัน)รู้ และคงไม่อยากพูดอะไร

มันก็ไม่ใช่วิสัยของฉันที่จะไปถามไถ่เรื่องของคนแปลกหน้า
เมื่อหูฉันได้ยินเสียงที่ผิดแปลกและมั่นใจในสิ่งที่ฉันได้ยิน...
ฉันยื่นทิชชู่ให้...
หล่อนกล่าวขอบคุณ...

ปฏิสัมพันธ์ของเราจบเพียงเท่านั้น
และดูเหมือนว่าไม่มีใครต้องการสานอะไรให้มันกว้างไปมากกว่าที่มันควรจะเป็น

ทิชชู่ หรือกระดาษชำระ...จะทำหน้าที่ของมันได้มาก-น้อยแค่ไหนนะ?
ฉันว่า...ที่สุดแล้วมันก็คงชำระได้เพียงแค่ภายนอกเท่านั้นเอง
...คิดเหมือนกันใช่ไหม??

สายตาฉันเม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอีกฝั่งของรถ...
ได้ยินเสียงของหัวใจตัวเองเต้นแผ่ว
เพรียกร้องไปถึงคนไกล...ในหัวใจ

ฉันไม่รู้ว่าหล่อนกำลังเผชิญกับอะไรอยู่
ปัญหาและภาระของคนคนหนึ่งที่พึงจะมี
..มันก็มากเกินกว่าที่ฉันจะรับรู้และช่วยเหลือ
บางครั้งบทเรียนที่คนข้างบนส่งมา
..ก็เพื่อให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น
บางครั้งก็ทำให้เส้นทางที่มืดมนชัดเจนขึ้นได้
..บนเงื่อนไขที่ว่า หากเราก้าวข้ามผ่านมันได้

"แล้วทุกอย่างจะพ้นผ่าน" (All the truth will pass.)
ฉันแอบบอกในใจกับสาวเสื้อแดง
เหมือนที่ฉันบอกกับตัวเองบ่อยครั้ง
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดี หรือ ไม่ดี
..สุดท้ายแล้ว กาลและเวลาจะช่วยให้เราพ้นผ่าน
ส่วนจะผ่านได้ดีหรือไม่ดี...อันนี้อยู่ที่ความแกร่งของหัวใจเรา

ในช่วงเวลาที่เราแย่ อ่อนแอ และหวั่นไหว
การก้าวข้าม การพ้นผ่าน...ดูจะไม่ใช่เรื่องง่าย
สิ่งที่เราต้องการที่สุด น่าจะเป็น...พลังใจ
หลายครั้งก็ต้องหยิบยืมจากครอบครัว เพื่อนฝูง คนรัก ฯลฯ..เข้าช่วยเยียวยา
แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด...เพราะจริงๆ แล้วสิ่งนั้นมันอยู่ในตัวของทุกคน
มาก น้อย...ขึ้นอยู่กับการได้เรียนรู้ และตื่นรู้ ในภาวะแห่งการเผชิญ ณ ปัจจุบันขณะ

ตราบใดที่เรายังหายใจ...
เราก็ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ
..ทำงานไปเรื่อยๆ
..รัก เลิก กันไปเรื่อยๆ
..กินเข้า ถ่ายออก กันไปเรื่อยๆ
..ดี เลว กันไปเรื่อยๆ
เพราะเรากำลังเวียนว่ายอยู่ในวงกลม...
วงกลมใหญ่ที่ได้ชื่อว่า.. "วัฏสงสาร"

วัฏสงสาร หมายถึง...
"ที่ซึ่งปุถุชนสามัญ ผู้มีปรกติท่องเที่ยวอยู่ภายในวัฏสงสารตราบใด
ก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้จมติดจมอยู่ในห้วงทุกข์ทรมานอยู่ตราบนั้น"
---พุทธวจนะ---

เริ่มเกิดขึ้นในวัฏสงสารเมื่อใดและจะสิ้นสุดลงเมื่อใด?
สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้
เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น
มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ท่องเที่ยวไปมาอยู่
..ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ
---พุทธดำรัส---

เรื่องบางเรื่องก็เป็นเรื่องอจินไตยเกินเกินกว่าจะหาคำตอบ
..หากแต่การภาวนาแห่งจิตตั้งอยู่บนความเพียร
..ภพหนึ่งจักได้รู้จักและค้นพบ

และไม่ว่าสาวเสื้อแดงจะเจอะเจอกับอะไรอยู่
ขอให้ก้าวย่างที่เหยียบย่ำ..เจริญไปด้วยสติ และสัมปะชัญญะแห่งความดีงาม

..แล้วทุกอย่างจะพ้นผ่าน
..ฉันเอาใจช่วย

1 comment:

แปลภาษาฝรั่งเศส said...

ผมขออนุญาตเจ้าของบล็อกประชาสัมพันธ์เรื่องการบริจากโลหิตหน่อยนะครับ คือผมเพิ่งไปบริจากมาเลยทำให้ได้ความรู้มาอยางนึง ซึ่งคิดว่าเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ก็คงจะไม่รู้เช่นกัน ทราบหรือเปล่าครับว่าคนเราที่จริงแล้วมีเลือดส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คือปกติร่างกายเราต้องการเพียง 15-16 แก้ว แต่เรามีมากถึง 17-18 แก้ว นั่นก็คือมีเลือดส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้ครับ แล้วส่วนเกินนี้ปกติมันจะไปที่ไหนครับ ก็ถูกขับทิ้งออกมาทางปัสวะนั่นเอง ดังนั้นอย่าให้มันเสียเปล่าเลยครับ ไปบริจากให้คนที่เค้าต้องการดีกว่า ขอขอบคุณท่านเจ้าของบล็อกมากครับ การช่วยเผยแพร่ข้อมูลก็ถือเป็นบุญกุศลอย่างมากเลยครับ