Friday, December 21, 2007

อาหารกับวัฒนธรรม

นานมากน้อยแค่ไหนที่ถกเถียงกันว่ามะเขือเทศเป็น "ผัก" หรือ "ผลไม้" ในเมื่อท้ายที่สุดมะเขือเทศก็ยังคงทำหน้าที่ของมะเขือเทศต่อไปอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนของความเป็นมะเขือเทศ และไม่ว่ามะเขือเทศนั้นจะสัญชาติใด เราก็ยังคงเรียกมันว่ามะเขือเทศอยู่ร่ำไป บทบาทของมะเขือเทศก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง มีแต่จะรังสรรค์ให้เกิดความหลายหลายในการผสมผสานรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของมะเขือเทศแต่ละพันธุ์

การเลือกสรรวัตถุดิบ ส่วนผสม ส่วนประกอบนั้นเป็นหัวใจหลักในการปรุงอาหาร ประกอบกับวิจารณญาณ ประสบการณ์ การเรียนรู้ของพ่อครัวผู้ที่จะสรรค์สร้างศาสตร์แห่งความอิ่มเอมใจที่เป็นมากกว่าความต้องการของร่างกาย

ในนามของการทำอาหารไม่มีคำว่าถูกหรือผิดที่จะปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ประยุกต์ใช้บางสิ่งที่ต่างออกไปจากที่คนรุ่นก่อนได้บันทึกไว้ หากการณ์นั้นจะทำให้คุณค่าของอาหารเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะทางใดก็ตาม ก่อนที่เราจะเริ่มปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอาหารใดๆ "ราก" ของอาหารนั้นๆถือเป็นหัวใจหลักที่เราจะต้องเรียนรู้

"แกงส้มชะอมทอด"... จะเป็น"แกงส้มชะอมทอด"ไม่ได้...หากเราไม่รู้วิธีจักการทอดชะอม

ดั่งวัฒนธรรมที่สั่งสมกันมา...อย่างที่เราเองก็รับรู้ว่า คนไทยกินข้าวเป็นหลัก คนจีนกินเส้น และชาวตะวันตกกินขนมปัง มันผิดแปลกตรงไหนกันที่บางวัน เราจะอยากกินขนมปังบ้าง...

การเปลี่ยนแปลงจะทำให้เราได้เรียนรู้ในเรื่องราวใหม่ๆ ทั้งที่เหมาะสมกับตัวเราและวิถีชีวิตของเราก็ดีและที่ไม่เหมาะสมก็ดี สิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่กับการที่เราได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ที่ต่างออกไปเพียงเท่านั้น แต่จะยังส่งผลย้ำถึงความเป็นมาของตัวเรา เบื้องหลัง ประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของชาติพันธุ์ และอารยธรรม รวมถึงพื้นเพของถิ่นที่เรามาเผื่อเป็นเครื่องมือที่จะช่วยป้องกันการลืม"ราก"ของเราเอง

และใช่หรือไม่ก่อนที่จะเป็น "Internations" ต้องเริ่มที่ "Nation(s)"

หลังจากที่ประเทศไทยรับความเป็นอินเตอร์เนชั่นเข้ามาสู้อ้อมกอดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเพณีและวัฒนธรรมที่พ่วงมากับภาษาก็ดูจะกลายเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการเข้ามาของชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี และก็มีไม่น้อยที่ส่งผลถึงการดำเนินชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบัน หากพูดกันอย่างแท้จริงเราคงจะกีดกันการเพิ่มขึ้นของการเข้ามาอยู่อาศัยของชาวต่างชาติไม่ได้ แต่เราสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่ พร้อมทั้งผสมผสานให้เกิดความลงตัวกับวัฒนธรรมของเราเองได้ มันไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องมาถกเถียงกันว่า ดีหรือไม่ดี หรือวัฒนธรรมของใครดีกว่ากัน หรือนี่วัฒนธรรมของฉัน และนั่นเป็นวัฒนธรรมของเธอ

เราไม่เหมือนกัน...ไม่ได้หมายความว่าเราจะอยู่ร่วมกันไม่ได้

ยิ่งนานวันก็คงจะได้ยินการเฉลิมฉลองในวันคริสต์มาสเพิ่มขึ้นในบ้านเมืองเรา เห็นได้จากการตกแต่งประดับประดาสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการหรือเอกชน การส่งการ์ดอวยพรให้กับบรรดาเพื่อนๆ หรือคนสนิท รวมถึงการเฉลิมฉลองในวันสำคัญนี้ของชาวคริสต์ศาสนิกชนและไม่ใช่คริสต์ศาสนิกชน และที่เป็นประเด็นให้ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ก็คือวัยรุ่นไทย ที่ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับเทศกาลของชาวตะวันตกอย่างออกหน้าออกตา ผู้เขียนอ่านข่าวหลายวันก่อนพบว่า การฉลองวันคริสต์มาสของวัยรุ่นไทยเพิ่มสูงขึ้นทุกปีๆ ไม่นับรวมการเฉลิมฉลองในเทศกาลอื่นๆ เช่น วันอีสเตอร์ วันฮาโลวีน วันฮานูก้ามีเริ่มมีเค้าลางว่าจะเพิ่มสูงเช่นกัน ในมุมมองของผู้เขียนเองมองว่า คงไม่ใช่แค่วัยรุ่นเท่านั้นที่มีการเฉลิมฉลองในวันนี้ แต่น่าจะเป็นคนทุกกลุ่มที่มีการติดต่อกับชาวต่างชาติ หรือแม้แต่คนไทยแท้ๆ ที่เติบโต หรือศึกษาในต่างประเทศ

มองในมุมกลับ การเฉลิมฉลองในวันตรุษจีนกลับไม่เป็นประเด็นเท่ากับวันคริสต์มาส

ต้นไม้จะมีใบหรือออกดอกผลไม่ได้หากปราศจาก "ราก" ดังนั้นไม่ว่ามะเขือเทศจะเป็นผักหรือผลไม้ มะเขือเทศก็ยังคงทำหน้าที่ได้ไม่บกพร่อง ส่วนคนไทยจะกินข้าวหรือขนมปัง อันนี้แล้วแต่ความชอบค่ะ ในปริมาณที่พอดี ผู้เขียนขอทานข้าวเป็นอาหารหลัก และเลือกขนมปังเป็นอาหารว่างค่ะ...

3 comments:

Anonymous said...

*0* ความรู้ ใหม่ๆ เขียน ภาษา สวยดี นิ

ZuMi said...

ขอบคุณมากค่ะ

ZuMi said...

เออ...พี่น้องสองคนนี่ก้อแปลกนะ
...ชมกันเองก้อเป็นเว้ย...

คริคริ