Saturday, November 28, 2009

หวานหวานที่เกาลูน

ก่อนการเดินทางจะเริ่มขึ้น...เราไปนั่ง chilled out ที่ลานเพลินแห่งหนึ่ง
โม่บอก...เวลาเมาแล้วขี้อ้อนนะเนี่ยเรา
ฉันก็ได้แต่หัวเราะและยิ้ม

ไม่รู้ทำไม...ปกติก็อ้อนอยู่ไม่กี่คน
และหนึ่งในนั้นก็เค้านั่นแหละ

ฉันขอบคุณเค้าในเรื่องราวแย่ๆที่ฉันทำให้มันเกิดขึ้น และขอบคุณในโอกาสที่เค้าหยิบยื่น ทั้งๆที่มันเป็นเหตุผลเดียวที่เค้าเองบอกว่า...จะไม่ทนและทนไม่ได้
โม่บอกฉันว่า...เพราะเค้าผิดเองที่ช่วงนั้นไม่มีเวลาให้ ทำให้ความรักของเรามันจางๆไป และก็มันไม่ใช่การให้โอกาสหรืออะไร แต่เพราะเค้ารู้ว่า...ขาดผู้หญิงคนนี้ไม่ได้...มันชัดเจนในความรู้สึก

ณ เกาลูน

ขณะที่เรารอดู "The symphony of life" อยู่นั้น ผู้ชายของฉันเหม่อมองออกไปยังฝั่งฮ่องกง ฉันเองไม่แน่ใจว่าเค้าเองกำลังคิดอะไรอยู่ บางทีเค้าอาจจะอยากใช้ความคิด...แม้แต่คนรักอย่างฉันก็ไม่ต้องการให้รบกวน

ฉันนั่งนิ่งๆพลางจิบน้ำที่เค้าไปซื้อมาให้ และกำลังจะลั่นชัตเตอร์ให้ใจมันหวั่นไหวไปตามทิวทัศน์ที่แปลกตาตรงหน้า จู่ๆ จูบกลางอากาศก็เล่นเอาฉันตาค้างไปหลายต่อหลายวินาที

ด้วยความห่วงใย ฉันจับหน้าเค้าเบาๆแล้วถามไปว่าเป็นอะไรหรือเปล่า

เค้าบอกว่า "พี่อาจรู้เรื่องกล้องไม่มาก ไม่รู้จักหรอกว่าค่าเอฟสต็อปคืออะไร? แสงแบบนี้ต้องเฉลี่ยแบบไหน? แล้วน้อยส์จะเยอะมั้ย? แต่พี่รู้นะว่าว่าโฟกัสของพี่อยู่ที่ไหน..จุดเดียว..ชัดเจนไม่เปลี่ยนเลยครับ"


ฉันยิ้ม....ฉันยิ้ม....และฉันยิ้ม
ขอบคุณโอโม่ครับที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้มีความหมาย
เหมือนที่เคยสัญญา...ทางเดินต่อจากนี้ไป...จะให้รักมันล้น...จนใจเลยล่ะนะ
...เราสองคนไม่ต้องเดินทางคนเดียวแล้วเนอะ...

จับมือกันไว้สิ
ให้หัวใจมันเต้นพร้อมกัน
ให้จังหวะที่ฉันเดินช้า...ในขณะที่เธอเดินเร็ว
จับมือไว้...ให้เราเดินไปพร้อมกัน

ขอบคุณที่เดินมาเจอกัน พร้อมความรักที่นำมาให้
ที่วันนี้มันเป็นมากกว่านั้น...ระหว่างเราสองคน

เคยไหม...สักครั้งที่รู้สึกว่าตัวเองโชคดี...ใช่ไหม??

Friday, November 27, 2009

เพลงนี้ของพี่ครับ

..มอบให้เลย..

ผู้ชายห่วย ห่วย

คงคิดว่าฉันเสียใจและฉันเสียดาย
ที่วันนี้เสียเธอให้เขา...
เปล่าเลยเชื่อไหม...ภายในใจฉันมันว่างเปล่า

พาเขามาให้ฉันเจอ แอบอิงซบกัน
กะให้ฉันร้อนรนใช่ไหม...
โปรดจงรู้ไว้ เปล่าประโยชน์ในวันนี้

* เคยใช้เวลากับเธอมาเนิ่นนาน
เลยรู้ว่าเธอมันดีแต่นอกกาย
หัวใจไม่มีอะไร ที่เขาได้เธอไปสิ่งเดียวที่วันนี้ฉันรับรู้

** จะเสียดายผู้ชายห่วยๆ อย่างเธอทำไม
คบกันไม่รู้จะพาชีวิตฉันไปทางไหน
เสเพลมันไปวันๆ ถ้าเผลอเป็นนอกใจ
ไม่เห็นต้องเป็นอะไร แค่เสียผู้ชายห่วยๆ อย่างเธอ

คนที่เคยพบเธอมาอาจเป็นเหมือนกัน
อาจจะเสียดายเธอใช่ไหม
แต่เธอรู้ไว้ ไม่มีทางจะเป็นฉัน

ขอบคุณที่รักกัน

บางอย่าง...ที่มันชัดเจนในความรู้สึกอยู่แล้ว
มองกลับไป...ฉันนี่โชคดีจัง
เมื่อคนที่ใช่และคนที่รักเป็นคนเดียวกัน
เค้าไม่ได้ดีมากมาย เหมือนอย่างใครๆ
ก็คงไม่ต้องมากมายเหมือนอย่างใครๆ
เท่าที่มี เท่าที่เห็นและเป็นอยู่...ก็รักไม่ไหวแล้วครับ

รักโม่ครับและ...เพลงนี้ของโม่ครับ

ฉันเคยเกือบพลาดสิ่งที่ดีที่สุด
ในชีวิตหากในวันที่ฉันล้มอยู่ ไม่มีหนึ่งใจของเธอ
ฝันคงจบ หลายสิ่งที่ดีคงหมดทางได้เจอ
หนึ่งกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ลืมได้เลย...

ขอบคุณที่รักกัน...ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด

สักวันหนึ่งฉันอาจต้องล้มลงอีก ใครจะรู้
แต่ถ้าเธอไปด้วยกันอยู่ ก็ไม่หวั่นกลัวเท่าไร
เรื่องบางอย่าง ฉันอาจได้เคยพูดบอกเธอออกไป
แต่อีกมุมนึงของหัวใจ ไม่เคยพูดเลย

ขอบคุณที่รักกัน...ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
ขอบคุณที่รักกัน...ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉัน
ในวันที่ปัญหา ถาโถมเข้ามาใส่
จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไร
ก็รู้ดีว่าไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด
ขอบคุณในความรัก ที่หาไม่ได้จากที่ไหน
จะรักเธอให้มากพอ และขอทำให้ดีที่สุด

Thursday, November 26, 2009

Just Say

When question needs the answer...

Waiting for the answer...

Comes around..Goes around

Not any longer, cuz I dont want to hear your answer...

Cuz i dont want to hear another ten thousand lier(s)

Here to say goodbye.

Better on your way, Better on mine.

Thanks for hurt me most of the time.

Saturday, November 21, 2009

แค่อยากเหล้า (เล่า)

มัน...อดใจไม่ไหวจริงๆ
ก่อนค่ำคืนนี้จะผ่านไป
เสียงกระซิบเบาๆผ่านสายโทรศัพท์...ว่าอยากจูบยังก้องดังอยู่ในหัว
ภาพเก่าๆยังคงไหลวนเวียนให้ได้ล่องลอยตลอดการเดินทางของเย็นนี้

คำถามจากความรู้สึกที่ค้างคา
..บางทีถ้าเราเจอกันเร็วกว่านี้..มันจะดีมั้ยนะ..

ไม่รู้สิ..แต่มันก็เป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้
ช่างมัน...

เมื่อเช้า...ระหว่างการเดินทางเข้าสู่วิถีชีวิตและรูปแบบเดิมๆเหมือนทุกวัน
ฉันนั่งฟังดีเจพูดถึงลมหนาวที่กำลังพัดพาความเย็นเข้าสู่หัวใจของใครหลายๆคน
บางทีก็อาจจะรวมฉันอยู่ในนั้นด้วยล่ะมั้ง

ใช่...ลมหนาวมาอีกแล้ว
แต่มันก็ไม่เกี่ยวหรอกว่าลมนั้นมันจะอยู่เนิ่นนานแค่ไหน
ฤดูหนาวประเทศไทย...ใครๆก็รู้
สิ่งที่สำคัญมันคือ...ช่วงเวลาลมหนาวนั้นอยู่กับเรา...ก็เท่านั้นเอง

นั่นสินะ...ช่วงเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกัน...ที่มันสำคัญ
และมันก็ยังเวียนวน เล่นซ้ำไปซ้ำมาด้วยหัวใจอย่างชัดเจน

ว่าไป...ฤดูหนาว...หรือฤดูเหงา
เราไม่ค่อยเหงากันตอนหน้าร้อนเท่านั้นเองเนอะ
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน...

ออกไปกินข้าวเย็นกับคนรัก
เมื่อก่อนชายคนนี้เป็นคนขับรถให้ ไปนู่นนี่นั่น
ตั้งแต่...จำความได้ล่ะมั้ง
แต่วันนี้...กาลเวลาเปลี่ยนผ่านให้เค้าได้ผันตัวเองไปเป็นคนนั่งข้างๆบ้างแล้ว
เค้าบอกว่าสบายดี...เวลามีคนขับให้มันสบายแบบนี้นี่เอง
โดยเฉพาะคนขับที่เป็นลูกสาว

มันเป็นปกติของครอบครัวเราที่ออกไปกินข้าวนอกบ้านกันอยู่บ่อยๆ
คุยนู่นนี่นั่นกันเป็นประจำ
ใครเจออะไร มีปัญหาอะไรยังไง มีเรื่องน่าดีใจตรงไหน ความเห็นใครเป็นยังไง
เรารับฟังและโต้เถียงกันด้วยความเคารพตลอดมา

คนรักฉันดื่มเป็นปกติ...อ่อวันนี้คนรัก (จริงๆ) ของเค้าไม่อยู่
บ้านเราเลยขาดสมาชิกไปหนึ่ง...ซึ่งจะมาชดเชยกันในวันพรุ่งนี้อีกที
คนรักฉันเล่าถึงการฮันนีมูนครั้งล่าสุดที่บังคับให้ไป
แววตาเค้าเป็นประกาย...รับรู้ได้ถึงความสุข
ฉันดีใจและมีความสุขจริงๆนะ
ฉันรู้ดีมาตลอดว่า...ฉันมีครอบครัวที่ดีมาก...
ทั้งความรักและมากกว่าความรักที่เรามีให้กันตลอดเวลา
พ่อแม่ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงพ่อแม่
แต่เป็นให้...ทุกอย่าง
ความรักมันล้น...จนใจ

เคยมีผู้ชายคนหนึ่งบอกฉันว่า...ถ้าลูกเราเกิดมา เค้าต้องเป็นเด็กที่ท่วมไปด้วยความรักอย่างแน่นอน
ฉันเองก็คิดแบบนั้น

ลมหนาวมาปะทะหน้าเบาๆ
รู้สึกอยากให้เค้ามาอยู่ด้วยตรงนั้นจัง
อยากให้เค้าได้มาเจอคนรักของฉันที่ดูท่าว่าจะกรึ่มได้ที่ตามจำนวนโซดาที่พร่องไปหลายต่อหลายขวด
แต่มันก็คงไม่มีวันนั้นหรอก...ฉันเองก็รู้ดี...

และฉันว่า...วันนึงเค้าเองก็คงเป็นคุณพ่อที่ดีเหมือนกัน

เธอๆๆ...เธอคิดถึงฉันบ้างมั้ย
ข้อความที่เธอบอกจากปายวันนั้น...มันยังชัดเจนในความรู้สึกเธออยู่อีกหรือเปล่า
ถ้าจะขอฟังบ้าง...ได้มั้ย?

ถ้าเรารักกันได้...เราคงรักกันมากแน่เลยเนอะ

ช่วงหลังเหมือนเธอห่างหายหรือเธอห่างเหิน
เหมือนเธอเงียบไป
ความรู้สึกเธอก็คงเลือนลางไปตามกาลเวลาที่เปลี่ยนผ่าน
และความรักที่มีต่อ"เธอ"ก็คงชัดเจนมากขึ้นจนเข้าสู่ระดับปกติ
เท่าที่ฉันจะเข้าใจ...เธอเองก็คงอยู่ในช่วงเรียกความเชื่อใจมั่นใจคืนมา
ระหว่าเรามันก็เลยต้องเงียบไป
ไม่มีอะไร...ก็เข้าใจ

เกือบปีแล้วเนอะที่เรารู้จักกัน
เพราะต้องเตรียมถ่ายรูปดอกทานตะวันปะจำปีอีกแล้ว
ถ้ามีโอกาส...ก็หาเวลามานะ
ไม่ต้องกับเราก็ได้...จะกับใครก็คงเหมือนกัน

ฉันไม่ว่างในวันที่เธอว่าง และในทางตรงกันข้ามเธอก็เช่นกัน
บางที...ฟ้าคงไม่อนุญาตให้เราเจอกันแล้วก็ได้เนอะ
ฉันไม่ว่างในวันที่เธอจะไปท้าลมหนาวบนยอดภูนะ
เอาฉันติดไปในความคิดและลมหายใจของเธอด้วยบางได้ไหม
แต่ฉันก็อยากกอดเธอ...กอดฉันอุ่นนะ ^^

วันนี้มีคนถามว่าเคยไปปายมั้ย?
ฉันบอกว่ายังไม่เคยไป
เค้าก็ถามต่อว่า...แล้วอยากไปมั้ย?
ฉันบอกว่า...ไม่อยากไป ให้สวยแค่ไหนก็ไม่อยากไป...

รูปนั้นส่งให้ แต่ไม่รู้ทำไมมองที่ไรแล้วก็มีคำถามว่าเธอๆ เธอคยเห็นรอยยิ้มแบบนี้บ้างมั้ย
เวลาเธอทำให้เรายิ้ม...เธอเห็นแวตาของคนคนนี้หรือเปล่า
ก็อย่างที่บอก...ไม่รู้ทำไมมองทีไรแล้วมันก็รู้สึกแบบนั้นทุกครั้งไป
มันอาจไม่น่ารัก...เพราะถ่ายตอนเพิ่งตื่นน่ะ

ว่าไปฉันมาช้าไปจริงๆ นั่นแหละ
ในส่วนของเธอ...เธอคงโอเคแล้ว
ในส่วนของฉัน...ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะปล่อยตัวเองให้เป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหนกัน...

Sunday, September 13, 2009

จรัสพงษ์ สุรัสวดี :: บทสัมภาษณ์ซูโม่ตู้ทอลค์โชว์

1.เหตุผลของพี่ตู้ในการจัดทอล์คโชว์ครั้งนี้คืออย่างไรครับ?

เพราะพี่อิจฉารากหญ้าครับ การที่อนุญาตให้คนที่ไม่เรียนมีสิทธิเท่าเทียมคนที่เรียน เป็นกติกาสากลสำหรับ ประเทศที่ระดับการศึกษาเฉลี่ยสูงถึงขั้นปลอดภัยแล้ว การเลือกตั้งของเค้าจึงเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานได้ ซึ่งไม่ถูกต้องสำหรับประเทศที่การ ศึกษาเฉลี่ยต่ำครับ เพราะจริงๆแล้วสิทธิขั้นพื้นฐานเดิมนั้นกำหนดเฉพาะเรื่องพื้นฐาน เช่น การนับถือศาสนา การสาธารณะสุข การแสดงความคิด การสมรส สวัสดิภาพในการดำรงชีวิต ฯลฯ รวมไปถึง การศึกษา แต่ไม่รวมการเลือกตั้งเข้าไปในสิทธิขั้นพื้นฐานครับ อันตรายต่อความอยู่รอดของบางเผ่าพันธ์ุในทันที แต่เผ่าพันธ์ุนั้นๆ จะไม่ค่อยรู้ เพราะดันไปสงสารเพื่อนร่วมเผ่าพันธ์ุที่ควรกำจัดเพราะเป็นภาระ เราไม่ได้เกรงใจภาระเพราะเราใจดีนะครับ เราเกรงใจภาระเพราะเราขี้ขลาด เราเกรงกลัวพวกภาระครับ ภาระจึงได้ใจ ครอบครองเมืองโดยไม่ยอมพัฒนาพวกตน พี่อิจฉามันครับ เมื่อการศึกษาคือสิทธิขั้นพื้นฐาน ใครไม่ยอมเรียนก็ต้องถือว่าผู้นั้นละเลยสิทธิขั้นพื้นฐาน ก็แปลว่าบกพร่องในหน้าที่ซึ่งโยงกับบางสิทธิ ผู้บกพร่องในหน้าที่ก็ควรถูกเพิกถอนบางสิทธิที่เกี่ยวข้อง เช่น สิทธิในการตัดสินใจเรื่องอนาคตของประเทศชาติ เพราะเราจำเป็นต้องกำหนดที่การศึกษาครับ ไม่ใช่กำหนดที่อายุเหมือนประเทศพัฒนา ให้ตายซิ่ ระดับการศึกษาเฉลี่ยของเราต่ำกว่ามาตรฐานประเทศประชาธิปไตยในโลกครับ ไม่ต้องอาย ต่ำกว่ามากเลยจริงๆ ต้องยอมรับ ต้องแก้กติกาครับ ไม่งั้นตาย หลายศพแล้วด้วย และจะมีอีกครับถ้าไม่รีบแก้กติกา อย่าอาย เพื่อนร่วมชาติเราโง่ครับ ยอมรับซะจะได้แก้กติกากัน

ทำไมเราจึงไม่ให้ลิงบาบูนอายุ 18 ขวบมีสิทธิ์เลือกตั้งล่ะครับ เพราะบาบูนไม่เรียนหนังสือ ไม่ใช่เพราะบาบูนไม่ใช่คนนะครับ บาบูนเหนือกว่าบางคนด้วยซ้ำ บาบูนหากินเองได้ ไม่ต้องรอเอื้ออาทร ไม่ต้องรอผ้าห่มทุกปี ก็ถ้าบาบูนเรียนหนังสือสอบผ่าน ม.6 ก็แปลว่าพูดกับคนรู้เรื่อง เราก็ควรให้สิทธิ์เลือกตั้งกับบาบูนครับ แต่นี่มีโง่กว่าบาบูนอีกนะ พูดก็ไม่รู้เรื่อง สะกดประชาธิปไตยก็ไม่ถูก ทำมาหากินก็ไม่ได้ ผ้าห่มก็หาเองไม่ได้ต้องแจกทุกปี แต่ดันมีสิทธิ์เลือกตั้ง อย่างงี้บาบูนค้อนครับ ถ้ากุลีมีสิทธิเท่าบัณฑิต บัณฑิตจะลงทุนเรียนกันไปทำไมไม่ทราบครับ ประชาธิปไตยมันว่าด้วยเรื่องเสียงข้างมาก ฉะนั้น ประเทศไหนที่เสียงข้างมากไม่มีการศึกษา ประเทศก็ล่ม เพราะกุ๊ยซื้อกุ๊ยและกุ๊ยเลือกกุ๊ยแน่นอนครับ พวกคอมมิวนิสนิยมก็สัพหยอกว่าพี่ตู้เป็นอำมาตยาธิปไตย แต่พี่เต็มใจเป็นอำมาตยาธิปไตย มากกว่ากุ๊ยยาธิปไตย นะจะบอกให้ แต่เดี๋ยวนะครับ อำมาตยาธิปไตยมันไม่ดีตรงไหนหรือครับ เทียบกับรัฐบาลรากหญ้าธิปไตยทุกวันนี้ มีคนเข้าใจสิ่งที่เข้าใจยากแบบนี้อยู่หยิบมือนึงบนแผ่นดินนี้ พี่ต้องทอล์คโชว์เพราะพี่ต้องการพูดคุยกับท่านเหล่านี้บ่อยๆ ครับ อาจไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงวันนี้ แต่พรุ่งนี้จะไม่มืดมน เพราะคนเหล่านี้จะเห็นทางออกไงครับ ถ้าไม่อวดเก่งกันนะ พรุ่งนี้หมายถึงวันรุ่งขึ้น ไม่ใช่ปีรุ่งขึ้นนะ เพราะทันทีที่รู้ทางออกก็บอกต่อกันแบบแอมเวย์ แป๊บเดียวก็เข้าใจกันหมดแล้ว ซัก 2 วันมั้ง เพราะคนที่ฟังรู้เรื่องมีไม่ถึง 1 % ของประเทศ ที่เหลือไม่ใช่โง่ แต่ไม่ฟังครับ ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่าอวดดี เพียงแต่โง่ การเปลี่ยนแปลงแผ่นดินต้องทำให้เด็ดขาดครับ ไม่ใช่ไล่ไปแล้วเลือกตั้งใหม่เพื่อให้พวกมันกลับมายิ่งใหญ่อีก มันตลกและดูไม่เด็ดขาดไม่จริงใจนะครับ ซึ่งพี่ก็สรรเสริญ ทุกการต่อสู้ของพันธมิตร เพราะชอบพอกันเป็นการส่วนตัวมาก แต่พี่ไม่ไปวิ่งชนกระสุนเพื่ อให้รากหญ้าเลือกพวกมันกลับมาอีก คุณพ่อพี่สอนว่า อย่าให้คนไม่ดีมีโอกาสปกครองบ้านเมือง เพราะฉะนั้น การขับไล่ต้องตามด้วย การกำจัด ซึ่งในอารยะประเทศเค้าใช้วิธีฆ่าทิ้งแบบเนียนๆ แล้วแจงว่า ตายด้วยฝีมือคนวิกลจริต ซึ่งเรื่องก็เงียบ แต่ในอนารยะประเทศซึ่งขี้ขลาด ก็ใช้วิธีนุ่มนวล ซึ่งก็ตกเป็นเบี้ยล่างและสูญเสียเปล่า เพราะกลับมาเหมือนเดิมทุกอย่างหลังทุกการต่อสู้ พี่หงุดหงิดทุกครั้งเพราะวีรบุรุษของพี่เหนื่อยเปล่าทุกครั้ง เพราะไม่แก้ที่ระบอบไงครับ การเป็นวีรชนด้วยอารมณ์มักไม่แก้ปัญหาครับ ต้องแก้ปัญหาด้วยเหตุผล ซึ่งต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือ การโกงกิน การแตกแยก และสิทธิที่ไม่ควรเป็นขั้นพื้นฐาน ซึ่งพี่จะได้กล่าวรวมไว้ในช่วงท้าย ขยักเอาไว้ก่อนให้หงุดหงิดเล่นซะงั้น เป็นการคัดคนอ่านไงครับ ท่านใดที่อ่านถึงตรงนี้แล้วงง อย่าอ่านต่อนะครับเสียเวลาท่านเปล่าๆ ครับ ท่านก็ตั้งหน้าตั้งตาเลือกคนดีต่อไปนะ

2. ชื่อของทอล์คโชว์ 'กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต' ต้องการจะบอกอะไรครับ เหมือน'ไม่เจ็บ ก็ไม่โต' อย่างนั้นหรือเปล่าครับ ?

จะแปลอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่วลีที่ว่า ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต หมายถึง พิการ นะครับ สังคมไทยพิการเพราะเราคิดว่าเราทำได้อย่างซีกโลกหนาวครับ ลอกทุกอย่างของเค้ามา รวมทั้งระบอบการปกครอง โดยลืมคิดไปว่าไม่มีนวัตกรรมของเราที่เค้าซื้อไปใช้เลย มีแต่นวัตกรรมของเค้าที่เราซื้อมาใช้ เพราะเราไม่มีนวัตกรรมไงครับ สิ่งของเครื่องใช้ในการอำนวยความสะดวกของชีวิตประจำวันประดิษฐ์คิดค้นโดย คนซีกโลกหนาวแทบทั้งหมด เพราะเราไม่กล้าคิด เรากลัวคนที่คิดไม่ออกจะทักท้วงเรา เพราะคนที่คิดไม่ออกรู้ดีว่าถ้าทักท้วงแล้วจะดูเหมือนชนะในสายตาคนรอบๆ ซึ่งก็คิดตื้นแบบเดียวกัน จึงไม่มีกระบวนการคิดเกิดขึ้นในแถบซีกโลกร้อนที่ช่างทักท้วงครับ มหาบุรุษอย่างเจ้าชายสิทธัตถะ และ มหาตมะคานธี เท่านั้นครับ ที่ฝ่าวงล้อมของนักทักท้วงได้สำเร็จด้วยจิตที่มั่นคง การทักท้วงโดยที่คิดเองก็ไม่ออกเป็นวัฒนธรรมซีกโลกร้อนทีอยู่ในสันดาน แก้ไม่ได้ครับ ทำให้เป็นประชาธิปไตยอย่างซีกโลกหนาวไม่ได้สักประเทศเดียว แต่ก็อยากจะเป็นประชาธิปไตยเพราะหลงตนกันครับ เหมือนการย้อมสีผมแล้วเป็นฝรั่ง สังคมที่พิการเกิดจากการแก้ปัญหาด้วยอารมณ์ ไม่นิยมเหตุผล แต่พี่เห็นพันธมิตรใช้เหตุผลแล้วก็ไม่ได้ผลนะครับ เพราะต่อให้ใช้เหตุผลรัฐบาลหน้าด้านก็ไม่ลาออกครับ เพราะรากหญ้าเลือกเค้ามาด้วยเสียงที่มากกว่าบัณฑิต ซึ่งเราก็เถียงระบอบไม่ได้ เพราะบัณฑิต 14 ตุลาเอาอำนาจ การตัดสินใจในเรื่องบ้านเมืองไปยัดให้รากหญ้า ซึงพวกเค้าไม่อยากได้ และเล่นไม่ถนัด แต่พี่ว่าพวกเค้าเล่นถูกแล้วนะ เพราะเค้าเลือกคนที่ให้เงินเค้า เพื่อตอบแทนบุญคุณ ซึ่งเป็นการกระทำที่ถูกต้องในสายตาพวกเค้าเอง คือ การมีกตเวทิตาครับ รากหญ้าหัวเราะเยาะพวกเราที่แห่กันไปเลือกพรรคนั้นพรรคนี้ โดยไม่ได้อะไรตอบแทนเลย พวกเราก็ดูโง่ในสายตาพวกเค้านะครับ การโกงกินไม่ใช่สิ่งที่ผิดในสายตารากหญ้าครับ เพราะรอบหมู่บ้านเค้ามีแต่การโกงกินโดยผู้มีอำนาจมีฐานะ และมีคนยกย่องด้วยเพราะรวยนี่ เป็นที่พึ่งของทั้งหมู่บ้าน กลายเป็นเทพไปเลย แม้จะโกงมาก็ไม่ ว่าเพราะทุกคนที่นั่นโกงแล้วได้ดีทั้งนั้น ทุกห้องแถวทั้งในกรุงและบ้านนอกก็ทำอาชีพซื้อถูกมาขายแพงโดยไม่เสียภาษีทั้งสิ้น ก็คือการโกงดีๆ นี่เอง ไม่เห็นตำรวจจับนี่ เราเรียกร้องให้อุดหนุนร้านโชห่วยที่ไม่เสียภาษี และขับไล่ แมคโคร โลตัส คาฟู ที่เสียภาษี ทั้งๆ ที่ร้านโชห่วยก็เป็นของคนต่างด้าวเหมือนกัน บางร้านไม่พูดไทยด้วยซ้ำ เราเห็นว่าผิดแต่รากหญ้าเห็นว่าไม่ผิด เพราะเราดันยอมให้พวกที่คิดไม่เหมือนพวกเรามีสิทธิเลือกคนมาปกครองเราไงครับ เราต่างหากครับที่เป็นฝ่ายที่ทำผิดมาตลอด เรื่องอย่างนี้คนที่คิดได้เท่านั้นที่จะรู้ บางคนคิดไม่ได้ครับ คิดแล้วปวดหัวสลบเหมือดคาหลังควาย ความไม่กล้าคิดทำให้ทุกสังคมพิการครับ สังคมที่พิการจะล่มแล้วล่มอีก ลุกกลับขึ้นมาได้ก็ป้อแป้เดี๋ยวก็ล่มอีก โยนกก็ล่ม เชียงแสนก็ล่ม ล้านนาก็ล่ม ทวาราวดีก็ล่ม ศรีวิชัยก็ล่ม หริภุญชัยก็ล่ม สุโขทัยก็ล่ม อยุธยาก็ล่ม ธนบุรีก็ล่ม นี่ยังไม่รวม อ้ายลาว น่านจ้าว นะครับ เพราะนักวิชาการหลัง 14 ตุลาบอกว่า ไทยไม่ได้มาจาก อ้ายลาว น่านจ้าว เนื่องจากไม่ต้องการให้คนไทยคิดว่าเราโดนจีนรุกราน เพราะพวกเค้ากำลังจะเอาลูกจีนเข้าสภาปกครองคนไทย เราจึงเคยมีประธานสภาที่พูดไทยไม่ชัดมากันแล้ว หัวหน้าพรรคก็มาจากแซ่แทบทั้งนั้น พวกเขามาจากไหน ใยจึงมาปรารถนาดีต่อแผ่นดินที่ไม่ใช่ของบรรพบุรุษตน ช่างประหลาดเหลือล้ำ แวะมาปรารถนาดีต่อแผ่นดิน 4 ปีก็ดันมีคนลงคะแนนให้ เรียกว่า พิการหมู่ ครับ ถึงเวลาต้องคิดระบอบใหม่กันแล้วครับ ถ้าไม่อยากให้อาณาจักรรัตนโกสินทร์ล่มอีก ถ้าคิดไม่ออกจงรู้จักฟังนะครับ ฟังแล้วก็ไม่ต้องคิดด้วยครับ เพราะเค้าคิดมาแล้วจะมาคิดทับอีกทำไม ช่วยกันคิดของใหม่ซิ่ครับ มาคิดทับกันอยู่นั่น คนไทยถนัดนักเรื่องคิดทับคนอื่น ฝรั่งเรียก ขโมยซีน ไทยเรียกว่า ไทยมุง หรือ รุมสกรัม หรือ หมาหมู่ นั่นเองครับ

3. พี่ตู้คาดการณ์ว่า บ้านเมืองของเราจะก้าวไปถึงจุดที่เรียกว่า 'กรุงแตก' หรือเปล่า เพราะอะไรครับ ?

เราแตกโดยพฤตินัยแล้วครับ ถ้ารอต่อไปโดยไม่ทำระบอบใหม่ เราจะแตกโดยนิตินัยครับ ก็จะเหมือน เขมรสามฝ่าย ลาวห้าฝาย เวียตนามเหนือใต้ เกาหลีเหนือใต้ ซึ่งตอนนี้เราก็มีไทยเหนือใต้แล้วนี่ใช่มั้ย วันนี้ไทยแตกเป็นจีนสองฝ่ายตีกันบนแผ่นดินไทย ลูกจีนทั้งนั้นครับที่แสดงออกกัน ตั้งแต่ 14 ตุลาแล้วครับ ที่มีคำว่ากุมารจีน กุมารไทยนอนครับ เพราะรับราชการกลัวอำนาจรัฐ ลับหลังก็นินทาคนโกงแต่ต่อหน้าก็เดินตามตูด คนไทยแท้ตอแหลครับ สมเด็จพระนเรศวรทรงตรัสไว้ว่า พวกเจ้าคนไทยเปรียบเหมือนหญ้าที่ต้องคอยตัดเล็ม เมื่อปล่อยให้โตโดยอิสระจะหาระเบียบใดมิได้ เราจะเอาทองคำโปรยบนทางเดิน ผู้ใดจ้องมองด้วยดวงตากิเลส เราจะให้ทหา รเอาธนูยิงลูกนัยน์ตา อยุธยาช่วงนั้น สงบสุข น่าอยู่ เพราะไม่ทรงอนุญาตให้ไพร่ที่ต่ำช้าแสดงออกครับ มาวันนี้ที่ประชาธิปไตยเบ่งบานทะโล่ จัณฑาลก็บังอาจแสดงออกได้และ ซื้ออำนาจเข้ามาปกครองบัณฑิต ซึ่งไร้น้ำยาเพราะพวกน้อยกว่า ประเทศที่คนมีการศึกษามีจำนวนน้อยกว่าคนที่ไม่มีการศึกษาจะยังเป็นประชาธิปไตยไม่ได้ครับ เพราะเสียงส่วนใหญ่จะโง่ จะวุ่นวายไม่จบสิ้น จะตะโกนแต่คำขวั ญของกรรมกรคอมมิวนิส ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน แล้วก็ตีกันด้วยอารมณ์ จบไม่ลงก็เดือดร้อนพ่อหลวงต้องมาระงับศึกทุกครั้งไป แต่ประชาชนก็ยังอยากเป็นใหญ่ในแผ่นดินของพระเจ้าอยู่หัว โดยไม่รู้จักเจียมตัว ดูแลแผ่นดินกันให้เรียบร้อยยังไม่ได้ แต่อยากเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เป็นคอมมิวนิสที่แอบอ้างประชาธิปไตยมาต่อเนื่องครับ เพราะยังเชื่อกันว่า ถ้ากรรมกรเป็นใหญ่ฟ้าจะสีทองผ่องอำไพครับ ตัวอย่างมีให้เห็นในแผ่นดินคอมมิวนิสอื่นเยอะแยะ ยังจะดักดานกันอยู่อีก ก็วันนี้กุลีก็เป็นใหญ่ในแผ่นดินไทยแล้วนี่ครับ ฟ้าก็ยังสีแดง ทุกอย่างจะเรียบร้อยต่อเมื่อฟ้าสีน้ำเงินเท่านั้นครับ จงรับรู้ไว้ซะ ถ้าสิ้นพระบารมีเมื่อใด เราก็จะเหมือนอดีตของเพื่อนบ้านเราแน่นอนครับ คนที่ต้องการล้มสถาบันเพื่อให้พวกตนคนต่างด้าวเป็นใหญ่ จึงต้องการเร่งให้สิ้นพระบารมีทุกวิธีโดยเร็วไงครับ ซึ่งการสิ้นพระบารมีมิได้หมายถึงต้องสิ้นพระอายุขัยแต่อย่างใด การที่ทรงทำอะไรไม่ได้ต่อสถานการณ์บ้านเมือง ก็ถือเป็นการสิ้นพระบารมีในสายตาคนพวกนี้ ที่รอให้สถาบันเสื่อม เพื่อสร้างเงื่อนไขในการตั้งราชวงศ์ใหม่ ที่มาจากแซ่ครับ วันเสียงปืนแตกของคอมมิวนิสต์ใกล้แล้วนะครับ แตกในกรุงนี่แหละ ..แตกกันเอง

4. ถ้ากรุงมันจะแตกหรือไม่แตกแล้วมันเกี่ยวอะไรกับ 'วิชาประวัติศาสตร์' ล่ะครับ ?

ประวัติศาสตร์สอนให้คนในชาติบังเกิด 3 สิ่ง สำนึก กตเวทิตา และ อุทาหรณ์ ปราศจาก 3 สิ่งนี้เราเป็นชาติไม่ได้ครับ อ้ายลาว น่านจ้าว โยนก เชียงแสน ล้านนา ทวาราวดี ศรีวิชัย หริภุญชัย สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี แตกหมดแล้ว เพราะไม่มีวิชาประวัติศาสตร์เรียนครับ อาณาจักรเหล่านี้เอาคนเชื้อสายต่างด้าวเข้ามาปกครอง เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษา และลบประวัติศาสตร์ทิ้ง ให้หันมาเลื่อมใสเชื้อสายต่างด้าวที่รวยเอารวยเอาไม่เลิก เพื่อให้เลิกนับถือพ่อและหันมานับถือเตี่ยใหม่แทนพ่อ ไม่มีทางครับ คนไทยเติบโตมากับการปกครองแบบพ่อกับลูก เปลี่ยนไม่ได้ครับ ยังไงก็เปลี่ยนไม่ได้ แต่ปรับได้ ขอให้รอฟังในช่วงต่อไปด้วยความอึดอัดและหงุดหงิดนะครับ เพราะของดีต้องมาตอนจบ เหมือนทุกวิกฤติของบ้านเมืองที่ผ่านมา และ คราวนี้ก็ด้วย พ่อจ๋า หนูกราบขอบพระคุณ และ คิดถึงพ่อมาก พะย่ะค่ะ ทอล์คโชว์ครั้งนี้จัดเพื่อสนองกระแสรับสั่งของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เรื่องวิชาประวัติศาสตร์ที่หายไปครับ

5. ถามตรงๆ ทอล์คโชว์คราวนี้มีประเด็นหลักๆ เป็นเรื่องการเมืองใช่หรือเปล่าครับ เพราะอะไร ?

การเมืองอย่างเดียวเลยครับ การเมืองตั้งแต่สมัยโยนกมาจนถึงสมัยราชวงศ์แซ่เบ๊อีก 50 ปีข้างหน้าครับ เราไม่รอดหรอกครับ เพราะเราแหย คนไม่แหยมีอยู่หยิบมือเดียว ที่กล้าฟังเรื่องพวกนี้ ที่เหลือนอนรอสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาล ซึ่งบางทีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ทรงพระเบื่อเป็นนะครับ เพราะประชาชนอยากเป็นใหญ่ในแผ่นดิน แต่แก้ปัญหาในแผ่นดินกันไม่ได้ แผ่นดินเกษตรกรรมแหงนรอฝนฟ้าบันดาลมาเกือบพันปี แก้กำพืดนี้ไม่ได้ จะให้แก้ปัญหากันเอง ไม่มีวันครับ ในทอล์ค โชว์วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคมนี้ ท่านผู้ชมที่มีกตเวทิตาและกล้าหาญสามารถสมัครคาราวาน กรุงเทพ – อยุธยา เดินทางวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน เพื่อเยี่ยมคำนับแผ่นดินประวัติศาสตร์ที่ลูกหลานลืมหมดแล้วว่า บรรพบุรุษไทยก็ไม่ใช่ขี้ขี้ เพียงเพราะวันนี้ไม่มีวิชาบรรพบุรุษศาสตร์ให้ผองเราเฝ้าศึกษา ก็หาใช่ว่าวีรกรรมของผองท่านจะหาเคยปรากฏไม่ ใช้ภาษาวรรณกรรมแล้วซับซ้อนดี เหมือนที่ให้รากหญ้าอ่านรัฐธรรมนูญแล้วไม่รู้เรื่อง ก็ถามว่ากินได้มั้ย ทำให้ เรารู้ว่าค่อนประเทศคิดแค่เรื่องกิน คนที่พวกนี้เลือกมาจึงกินจุ ไม่รู้จักคำว่าพอเพียงของในหลวง ถือเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เช่นเดียวกับการเข้าคูหาไปกาเลือกสามัญชนมาใช้ พระราชอำนาจของพระองค์ ก็มิผิดเพี้ยน ผลกรรมจึงตามมาลงโทษทัณฑ์ให้เราต้องอยู่อย่างไร้ความสงบสุขฉะนี้เอง แต่แผ่นดินย่อมดูแลผู้ที่กาโนโหวตให้มีชีวิตที่สุขสบายไร้กังวล สามารถมานั่งให้สัมภาษณ์ได้อย่างสบายใจเฉิบๆ อยู่ ณ ขณะนี้นั่นเองครับ

6. พี่ตู้มองความแตกต่างระหว่างเพลงเก่ากับนักการเมืองเก่ายังไงครับ? เช่น เพลงยิ่งเก่ายิ่งอมตะ แต่นักการเมืองยิ่งเก่า ก็ยิ่งเก๋าและโกงเก่งอะไรอย่างงี้เป็นต้น

น้องนิยามได้คมคายมากครับ พี่ชอบ เมื่อพี่ชอบพี่ก็ชมต่อหน้า คนไทยต้องแก้นิสัยไม่กล้าแสดงออกนะครับ ไม่ชม ไม่ด่า แล้วมันจะรู้มั้ยว่าเราเกลียดมัน พี่จึงยกย่องวีรกรรมของแกนนำพันธมิตรและผู้ร่วมชุมนุม และพี่จึงด่าคนที่พี่เกลียด เช่น รากหญ้า เพราะมันคือต้นตอแห่งปัญหาทั้งปวง คนที่มันเลือกมาสร้างปัญหาให้บัณฑิตเมืองหลวง ที่เสียภาษีไปเลี้ยงพวกมันที่โง่และขี้เกียจ พูดออกสื่อไม่ได้เพราะสื่อขี้ขลาดครับ จึงต้องมาทำทอล์คโชว์ เพื่อให้พูดได้โดยไม่ต้องเกรงใจสื่อที่ปอดแหก แต่ต้องพูดกับเฉพาะคนดูที่กล้าเท่านั้นนะครับ คนดูที่ขี้ขลาดอย่าซื้อบัตรทอล์คโชว์พี่นะ เดี๋ยวเยี่ยวแตกในโรงครับ สังคมที่ไม่กล้าแสดงออกไม่มีวันเป็นประชาธิปไตยได้ครับ คนที่ไม่กล้าแสดงออกก็เกิดมาหายใจเสียเปล่าไปชาตินึง เรียกว่า ดีแต่เกิด ซึ่งเป็นชื่อหนังสือเล่มแรกของพี่ ที่ผู้คนบอกว่าควรอธิบายชื่อหนังสือ พี่ก็บอกว่าถ้าไม่เข้าใจก็ไม่ควรอ่าน พี่ไม่เอาใจใครเลยครับ ไม่ใช่เพราะเป็นลูกทหารยศพลอากาศเอก ไม่ใช่เพราะไปโตเมืองนอกตอนคุณพ่อเป็นทูตลอนดอน ไม่ใช่เพราะเป็นนิสิตดีเด่นเพชรชมพูของจุฬา แต่เพราะพี่เหนื่อยกับการอธิบายคนที่ฟังไม่เป็นครับ ต่อให้พี่อธิบายจนมันเข้าใจแล้วมันก็ไปนอน แล้วมันจะสงสัยไปทำไม ไม่ใช่คนสำคัญอะไรเลย ไม่ได้เป็นแม้แต่ทรัพยากรที่มีคุณค่าอะไรต่อแผ่นดินเลย แต่ขี้สงสัย ถามจังเลย แผ่นดินสยามไม่ต้องมีมันก็ได้ครับ เปลืองออกซิเจนสยาม พี่เลือกพูดกับเฉพาะคนที่มีไอคิว ฟังเป็น เข้าใจเป็น คิดต่อเป็น คนเหล่านี้มีประโยชน์ต่อส่วนรวม พี่ต้องพูดกับเค้าครับ แต่ไอ้ประเภทฟังแล้วขี้ขโมย เช่น พี่ตู้คิดเหมือนผมเลย พวกนี้พี่ถีบเบาๆแล้วสอนครับ ท่านคิดสิ่งดีๆแล้วไม่พูดออกมา มึงจะคิดไปทำไม พลังเงียบไม่มีพลังนะครับไอ้โง่!! ได้ผลหลายรายแล้วครับ จริงๆ คือ มันฟังเสร็จแล้วเห็นด้วย แต่วางฟอร์ม ก็พูดว่าคิดเหมือนกัน ไม่ใช่มันคิดเหมือนพี่นะ มันบอกว่าพี่คิดเหมือนมัน แปลว่ามันคิดก่อน บัณฑิตที่เรียนถึงปริญญาเอกยังเป็นเลย ครับสันดานนี้ คือ คอรัปชั่นดีๆ นี่เอง มาจากการตักกับข้าวจากกลางโต๊ะมาใส่จานตัวเอง คือ เอาของส่วนรวมมาเป็นของตน ซึ่งเราสอนเด็กให้โกงตั้งแต่เล็กๆมาโดยไม่รู้ตัวกันครับ ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยในซีกโลกหนาว เวลากินข้าวต้องจานใครจานมัน ไม่มีการตักจากกลางโต๊ะทีละคำ มันตักทีเดียวราดเสร็จไปเลย เป็นการวางแผนระยะยาว ไทยเราคิดทีละคำ แล้วตะกละด้วยนะ กับข้าวหลายอย่างมาก เมืองหนาวมันกินมื้อละอย่าง เพราะยังมีมื้อหน้าค่อยกินอย่างอื่น มื้อนั้นไม่ใช่มื้อสุดท้ายของชีวิต มันคิดกันได้ไงครับ ถ้าเราสอนเด็กกินข้าวราดแกงตั้งแต่เล็ก เด็กจะโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ตะกละ ไม่ขโมยของส่วนกลาง รู้จักวางแผน และ คิดเป็นว่าทุกมื้อไม่ใช่ THE LAST SUPPER เพราะคิดกันไกลอย่างเมืองหนาวไม่ได้ เนื่องจากอุดมสมบูรณ์ ไม่มีการอดอยากหน้าหนาวอย่างพวกนั้น ก็ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า ทำให้นักการเมืองก็ไม่คิดไกล โกงง่ายๆ เพราะประชาชนเองก็ไม่คิดไกลเหมือนกัน เลือกพรรคนี้คนนี้เพราะเบื่อพรรคโน้นคนโน้น ถ้าคิดไกลจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่สามัญชนจะแวะมาหวังดีกับประเทศ 4 ปี โดยที่ก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยทำอะไรให้ประเทศมาก่อนเลย ฉะนั้นจงพร้อมใจกันกันกาโนโหวตให้สภาโล่งเถิด เพราะบ้านเมืองก็เดินได้ด้วยกระทรวงต่างๆ อยู่แล้วนี่ มีสภาก็ไม่เคยเล่นงานข้าราชการเลวได้เลย เพราะมัวแต่เล่นงานกันเอง มีสภาก็คือมีรัฐมนตรีมาช่วยโกงอีก การกาไม่เลือกใครเป็นการรักษาศักดิ์ศรีของผู้กา ว่าไม่ได้ส่งโจรเข้าไปแย่งพ ระราชอำนาจครับ ถ้าคิดว่ากาโนโหวตแล้วเสียของจะทำให้พวกผู้แทนรากหญ้าชนะและเข้าสภา กาเลือกประชาธิปัตย์ให้ตายพรรคของรากหญ้าก็มาอยู่ดีทุกทีครับ มันวางแผนกันมาตั้งแต่ 14 ตุลาแล้วครับ ผู้ใช้แรงงานต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ผู้ใช้สมองต้องเจียมตัวอยู่เงียบๆ แต่พี่หมั่นไส้มัน เลยไม่อยากเงียบ แต่พี่ก็พูดอยู่คนเดียวนะเพราะคนอื่นขี้เกรงใจ ซึ่งพี่ก็เห็นใจเพราะเค้าไม่มีปืนกลเหมือนพี่ ของพี่เป็นปืนกลอาบยาพิษด้วย กำลังจะเอาไปให้น้องยะ สุริยใสที่พันธมิตรครับ แต่ต้องใช้แทง เพราะอาบยาพิษที่ปากกระบอก นักการเมืองเก่าหรือนักการเมืองใหม่ไม่มีประโยชน์ทั้งนั้นครับ ถ้าสภายังยกมือไว้วางใจคนโกงอยู่ ระบอบใหม่ต่างหากครับที่จำเป็น ระบอบที่เหมาะสมกับสันดานไทย ที่ขี้โกง พี่เรียกว่า พอเพียงธิปไตย ถวายแด่พ่อผู้ทรงทศพิศราชธรรม

Saturday, July 25, 2009

หูหนวก

เข้าสู่โหมด : "หูหนวก"

อาการ ของคนที่ไม่ได้ยินอะไรหรือไม่พยามที่จะฟังอะไรที่เป็นเหตุเป็นผลมีสาระ รวมถึงข้ออ้างและข้อแก้ตัวเฮงซวยต่างๆ นานาที่พยามหยิบยกขึ้นมาเพื่อรักษาความสัมพันธ์ ไม่ว่าคนหรือใครจะพูดอะไรก็ตาม ก็จะมึนไม่สนใจ และไม่..แม้แต่จะพยามเพื่อเข้าใจ ซึ่งมีอาการแรกเริ่มเรียกว่า "หูทวนลม"

สาเหตุ ไม่สามารถทราบได้แน่ชัด อาจเป็นเพราะไม่พอใจ ต้องการการเอา..ใส่ เอ๊ยยย เอาใจใส่ ((แหม ตกใจ)) เรียกร้องความสนใจเป็นสันดาน ทำสลิดอิดออด พอไม่ได้ดั่งใจก็งอแง ไม่พอใจ โดนตามใจจนเคยตัว ไม่มีใครกล้าขัดใจ ถูกเลี้ยงมาอย่างเทพ

ทางแก้ไข ไม่ต้องไปใส่ใจ หรือให้ความสนใจใดๆ รวมถึงไม่ต้องเสียเวลาพูดจาอะไรกับแม่มมัน ปล่อยมัน มันอยากเข้าใจว่าอะไรก็ปล่อยมัน อย่าไปเสียเวลาพาร์ทิซิเพทกะมัน นอกจากจะเปลืองน้ำลายแล้ว พอทำลงไปอาจจะเปลืองตัว เปลืองน้ำตาและเวลาอันสุดแสนจะมีค่ายิ่งชีพ

ดังนั้น เมื่อรู้ว่าแม่งหูหนวก ก็ไม่ต้องเจ๋อทำอะไรที่มันหนวกหูล่ะ เก็บปากไว้บอกรักแม่คุณหรือเมียรักที่บ้าน...น่าจะเป็นการดีกว่า เห็นด้วย..ใช่มั้ย??

อ่อ..อีกอย่าง โพรไฟล์นี้ไม่มีการเช็คชื่อนะค่ะ ไม่มีคะนงคะแนนพิศวาสใด ดังนั้นไม่ต้องเข้ามาดูเป็นกิจวัตรก็ได้ เด๋วแม่(คุณ)ที่บ้านรู้เข้าจะเคืองนะคะ เด๋วเค้าจะมาว่าว่าหนูใฝ่ต่ำและไร้ศีลธรรมอีก

Friday, July 24, 2009

เพลงนี้เกี่ยวกับกรู

RULE
- ปรับโปรแกรมเล่นเพลงของคุณให้เป็นโหมดชัฟเฟิล(สุ่มเพลง)
- สำหรับคำตอบของแต่ละคำถาม ให้กดปุ่มเปลี่ยนเพลงเพียงครั้งเดียว
และนำชื่อเพลงมาตอบคำถาม
- ต้องเขียนชื่อเพลงนั้นลงไปข้างล่างคำถามพร้อมกับตีความ

1.หากมีใครสักคนบอกว่า "ไม่เป็นไรจริงๆเหรอ" คุณจะตอบว่า...
- ช่วงที่ดีที่สุด....อืมม ไม่เป็นไรจริงๆ เพราะคิดถึงช่วงที่ดีที่สุดไง
แม้จะไม่ได้มีเธออยู่ข้างๆแล้วก็ตามมมม

2.สิ่งที่อธิบายบุคลิกของคุณได้ดีที่สุด
- ลมหายใจของเมื่อวาน...ก็มีบ้างบางครั้งที่เรื่องราวมันจบมันผ่านไปแล้ว
แต่ก็ยังคงคิดถึงอะไรเดิมๆ อยู่ดี

3. คุณตามหาอะไรในตัว ผู้ชาย
- ปล่อยไปตามหัวใจ... ไม่ได้ตามหาครับอะไรในตัวเค้านะ
รักก็คือรักครับ และเมื่อไม่รักแล้วก็คือไม่รักครับ

4. วันนี้รู้สึกยังไง
- ยังรักกันอยู่ใช่ไหม...
เป็นคำถามที่อยากรู้ แต่ไม่อยากถามครับ
หรือหวงก้างนั่นเองงงง ฮา..

5. จุดมุ่งหมายในชีวิต คือ
- คิดถึงเธอ... คงไม่เซ็ทให้เป็น aim ในชีวิตหรอกม้างงงง

6. คติประจำตัวของคุณ คือ
- U Got Me ...เออ... ช่ายมีชั้นแล้วจะมองใครอีกกกกก
ห๊า.... เด๋วปั้ดโบกกกกกก

7. เพื่อนๆคิดยังไงกับคุณ
- ขอดาว ... อาจจะอยากได้เพื่อนใหม่รึเปล่าไม่แน่ใจ
555 ถึงกับอ้อนวอนขอดาวกันทีเดียว

8. คุณมักคิดถึงอะไรบ่อยๆ?
- บางสิ่ง ... คิดถึงบางสิ่ง บางสิ่งที่ทิ้งไป
ที่กำลังจะทิ้ง และที่ต้องทิ้งครับ ผู้ชายน่ะเองงงง 5555

9. อะไรคือ 2+2
- คิด พาราด็อกซ์... เออ... สองบวกสอง ยังต้องคิดอีกเนอะกรู...กำ...

10. คุณคิดยังไงกับเพื่อนสนิท
- รักแท้หรือแค่เหงา ... อูยยย เศร้าได้อีก
กะเพื่อนเนี่ยยยย รักจ้ะ รักจ้ะ ไม่ต้องเควสชั่นแล้วนะ
รักมั่กมากกกกกก จุฟๆ บ้วบๆ

11. คุณคิดยังไงกับคนที่คุณชอบ
- ของที่เธอไม่รัก... ก็ถ้าเป็นของที่เค้ารักยังไงก็ทิ้งไม่ได้ ทิ้งไม่ลง
ถ้าไม่...สักพักเค้าก็... ไม่เป็นไรๆ ฉันเองที่ต้องเจียม แงๆๆๆ

12. เรื่องราวในชีวิตของคุณ คือ
- งมงาย...เฮ้ยยย...เศร้าได้โล่ห์แล้วนิ...
ยอมรับครับว่าเป็นแบบนั้นแหละนะ
เธอยังรักกันมั้ยฉันไม่รู้ แต่ที่รู้คือฉัน...

13. โตขึ้นอยากเป็นอะไร
- เสียงของหัวใจ... ก็ทำๆ ไปตามใจต้องการ
ตามเหตุผลที่มี ที่คิดว่าดีครับ ไม่มีใครใฝ่ต่ำมาตั้งแต่เกิด
เริ่มงงว่าใฝ่ต่ำแปลว่าอะไร

14. เวลาเจอคนที่ปิ๊งแล้วรู้สึกยังไง
- อีกที... ขอจูบอีกที... อีกทีได้ปะ... อีกสองทีดีกว่า...
หือๆๆๆ ก็คิดถึงนี่หว่า
ขอให้ได้ทำนู่นทำนี่ให้ สุดท้ายจะตัดสินยังไงก็ได้..ยอมรับครับ

15. พ่อแม่คิดยังไงกับคุณ?
- ไม่รักดี...
เอ่อ คือ จิงอ๊ะ ป๋ากับแม่ไม่คิดงั้นหรอก...
ป๋ากะม๊ารักเราจะตายยยยย
((เข้าใจและคิดไปเองมาตลอดด))

16. ในวันแต่งงาน จะเต้นเพลงอะไร
- ฝากไว้ในใจเธอ...
โอ้วว โย่วว เย่.... ไม่ต้องมีความสำคัญใดๆ
ขอที่เล็กๆให้ได้มุดอยู่ เป็นกำลังใจ ไม่ได้เรียกร้องอะไรใดๆ

17. ในงานศพคุณ จะเปิดเพลงอะไร
- ขอบใจนะ... ขอบใจพวกแกนะที่มาร่วมงาน
รวมถึงอะไรที่ทำให้ อะไรที่มันลำบาก...ไม่ต้องยื้อไม่ต้องฝืนแล้วนะ
ไปแล้วนะ แล้วเด๋วตามไปนะ จุฟฟๆๆ 555

18. ... คืองานอดิเรกของคุณ หรือสิ่งที่สนใจ
- ตกหลุมรัก... เฮ้ย เค้าไม่ถือเป็นงานอดิเรกนะเว้ยยยย...
แค่ตกบ่อยยยยไปนี้ดส์..... อูยยยยย ((ไม่จริง แก้ข่าวววว))

19. คุณคิดยังไงกับเพื่อน
- Who, what, why, when, how....
would you give me a chance to undo...
but if you made up your mind, i'd never ask your reason why...

20. อะไรคือสิ่งที่แย่ที่สุดที่สามารถเกิดขึ้น
- แกล้งรัก... อูยยย มะเค้ยยยย มะเค้ยยยยทำนะ...ทำมะเป็นนน ทำยังไงอ๊ะ
แต่คงกำลังโดนกระทำอยู่นะเองครับ หือๆๆๆ

21. คุณจะตายยังไง
- อยากให้รู้ว่าเหงา... เหงาตายหรอ ตายคาโทรศัพท์ขณะคุยกะเค้า
และเมียเค้าอยู่ข้างๆ โอ้ววว...ประทับใจ

22. อะไรคือสิ่งที่คุณเสียดาย
- นาฬิกาตาย... เอ่อดิ...ค่าซ่อมแพงงงง...แง่วววว

23. อะไรสามารถทำให้คุณหัวเราะได้
- ข้อความ... ช่ายยยยๆๆ ข้อความดีๆจากคนรัก เพื่อน คนนู้นคนนี้
เก่าแค่ไหนก็เก็บไว้อ่านนนน อ่านไปยิ้มไปเป็นคนบ้าเลยยยย

24. อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณร้องไห้
- อัธยาศัยดี... ครับใช่ครับ เกลียดผู้ชายเฟรนด์ลี่ครับ...
จะสลิดก็ไปไกลๆเลยครับ เด๋วโดนอภินิหารสาวเฟรนด์ลี่ใส่แล้ว
จิหาว่าไม่เตือนไม่ได้หล่าวววว

25. คิดว่าตัวเองจะได้แต่งงานมั้ย
- เท่านี้ที่ต้องการ ((เชอร์รี่)) อืมมม น่าจะได้แต่งนะ แต่คงต้องรอให้เค้ามีเวลา
เพราะช่วงนี้ไม่มีเวลา ไม่เอาดอกไม้ ไม่เอาแล้วข้อความ
ไม่ต้องโทรถามว่าอยู่ดีหรือเปล่าของฝากก็ไม่เอา
ไม่เอาแล้วคำหวานนนนน
แค่เธอออออเท่าน้านนนนน ช่วยพามาให้ที... นะ นะ นะ

26. อะไรคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับคุณ
- ใกล้กันยิ่งหวั่นไหว... ถูกต้องนะคร้าบบบบ
อยู่ใกล้กันยิ่งหวั่นไหว ห้ามใจตัวเองไมได้เลย
พอไกลกันมันเลยได้เห็นหลายอย่าง... ร้องไห้อีกแว้ววว
แต่ก้อดีแล้วๆ ที่ไม่เสียเวลากับคนอย่างเรา

27. มีใครชอบคุณหรือเปล่า
- ขอบใจจริงๆ... อืมมม ไม่มีอ่ะ มีแต่คนที่เพิ่งทิ้งความมทรงจำไว้ให้อ่ะ
ให้จำบทเรียนที่แพงหลือหลายยยยยย

28. หากย้อนเวลาได้ จะเปลี่ยนสิ่งใด
- Minute of love ... วันที่จับมือกัน รู้มั้ยว่าเมื่อไหร่ แล้วใครรักใครก่อน..
ไม่แน่อาจจะอยากเปลี่ยน... ไม่รุเหมือนกัน...งั่มๆๆๆ

29. อะไรที่ทำให้เจ็บปวดอยู่ในตอนนี้
- Dream comes true: อยากให้เธออดทนรอจนถึงวันที่ฝันนั้นเป็นจริง
...ที่มันไม่มีจริง
...ที่เธอคงไม่กล้าทำให้มันเป็นจริง แงๆๆ

30. ทั้งหมดนี้แสดงได้ว่า
- รักเธอทั้งหมดของหัวใจ... ครับเป็นบทสรุปที่ดีครับ
ครั้งนึงเพลงนี้เป็นของเรา วันนี้เพลงนี้เป็นของเธอครับ

ฮาๆ แก้เครียด...เล่นแล้วก็ส่งมาให้อ่านบ้างเน้อ

Sunday, July 19, 2009

เกี่ยวกับกรู

1. นี่ครัยอะ**
ก็นึกว่ารู้จักกันแล้ว

2.ทำรัยอยู่**
เอารูปลงคอมพ์อ่ะ

3.เกิดเดือนอะไรอ่ะ**
เดือนแห่งความรักครับ

4.ชอบใครอยู่หรือป่าว**
ไม่ครับ ไม่ชอบครับ

5.บอกได้ไม๊ใครอ่ะนิดนึงๆ**
อ่านหนังสือไม่ออกก็ไม่บอก

6.แล้วเค้าคนนั้นเป็นงัย**
อืมม์..เกรียนน่ะเนี่ย

7.คิดว่าเค้าจาชอบเราไม๊**
ไม่อ่ะ เค้ารักมาก (อูยยย)

8.ชอบกินไอติมรสอะไร**
มอคค่าอัลมอด์ลฟัดจ์จ้า

9.คิดว่าตัวเองเรียนเก่งไม๊**
ธรรมด๊า ธรรมดา

10.เก่งวิชาอะไร**
ทุกวิชา ยกเว้นวิชารักครับ
กร้ากกกก...

11.เพื่อนสนิทๆชื่ออะไรอะ*
ไม่บอกได้ปะ กลัวพาดพิง

12.เพื่อนเพศตรงข้ามที่สนิทละคะ**
จอห์นนี่ เดปป์
แต่เค้ามะสนิทด้วยหรอกนะ
อิอิ

13.บรรยายนิสัยเพื่อนสนิทดิ**
น่ารักมาก น่ารักจริงๆ

14.แล้วเพื่อนเพศตรงข้ามที่สนิทอ่ะ
ยังไม่เคยคุยกันนิ

15.ชอบเพลงไหนเป็นพิเศษป่าวตอนนี้**
เพลงชาติอ่ะ..ฟังทุกวัน วันละสองครั้ง

16.ถ้าหั้ยเลือกมีแฟนได้**
เลือกไปทำไรอ่ะ งงนิ

17.อยากแก้นิสัยข้อไหนของตัวเอง**
ทำอะไรเป็นรูทีนมากไปมั้ง

18.ทำไมอะ..เหนื่อยไม๊เนี้ยที่ตอบมา**
ไม่นะ ชิลด์ๆ

19.เวลารับโทรสับ**
ฮาโหลลลลลลล

20.แล้วเวลาวาง**
I love you พร้อมจุฟสองที

21.ส่ง msg บ่อยไม๊**
บ่อยนะ

22.ส่งให้ใครบ่อย**
คนรักครับ

23.แล้วใครส่งมาบ่อยอะ**
ก็คนรักอีกอ่ะครับ

24.เล่น msn ปะ**
ครับ แอบอยากแอดเรานะน่ะ

25.บ่อยป่าว**
มะค่อยนะ แค่ตอนกลับบ้านวีคเอนด์

26.เกลียดเพื่อนแบบไหนมากที่สุด*
ไม่เกลียดครับ
คนที่เป็นเพื่อนกันแล้วไม่เกลียดครับ

27. ถ้าเรามีแฟนแล้วแฟนไปชอบคนอื่นอยู่ทำงัย ต่อยเลยมั้ย**
แล้วแต่ครับ ถ้าคิดว่าอยากปล่อยมือผู้หญิงคนนี้ไป
..ก็ไม่มีอะไรต้องพูดจาครับ..

ไม่ต่อยครับ..ตัดครับ.. เอาให้ขาด...
555

28.เป็นคนขี้งอนไม๊**
มากมายยยย

29.แล้วชอบง้อคนอื่นป่าว**
แล้วแต่คน แล้วแต่เคส

30.แม่ดุป่าว**
แม่ไม่ดุ
แต่ป๋าดุ..มากกกกครับ (ขู่ให้กลัว)

31.คุยโทรศัพท์กับใครบ่อยที่สุด**
ป๋ากะแม่ครับ และคนรักครับ

32.สถานการณ์ไหนที่ไม่ค่อยชอบ**
ขับรถอ่ะ ไม่ชอบขับรถ
อีกอันก็..แอบรักครับ
ควบคุมตัวเองได้..ยากครับ

33.อยู่ในห้องเรียนสนุกไม๊**
ก็สนุกดี เรียนอย่างเดียว
ไม่ต้องคิดอะไร
สอบเสิบไรก็ไม่ต้องคิด
..ลอกเพื่อนเอา..คริคริ

35.เคยคิดมั่งปะว่าตัวเองตั้งใจเรียน**
เคยยยยยจิ บางครั้งอ่ะ 555

36.คิดว่าในห้องเรียนใครเสียงดัง**
อืมม์...ก็ร่วมด้วยช่วยกันนิ
มะเห็นมีใครคุยกันแบบกระซิบซ้ากกกตัว

37.ครูประจำชั้นเป็นงัยบ้าง**
เจ๋งงง

38.ใครให้ทำอะไรแบบนี้**
ทำเอง...ไปก็อปมาทำเอง

39.เค้าเป็นงัย**
มะรุ ไม่รู้จัก

40.บอกอะไรกับคนที่จะส่งไปให้**
ไม่ได้ส่งให้นิ

41.คิดว่าเค้าจะตอบกลับไม๊**
ไม่คาดหวัง

42.ภาพยนตร์ 3 เรื่อง... ที่คุณชอบที่สุด...คือ**
1. Pride and Prejudice
2. Before sunset&sunrise
3. หนัง X

43.บุคคล... ที่คุณนับถือ เป็นแบบอย่าง (ยกเว้นคุณพ่อคุณแม่)
โซ้ยโกวครับ เข้มแข็งเกินตัวครับ

45.คติประจำใจ หรือ ข้อคิดที่ยึดถืออยู่**
While you pray, move your feet!

46.คุณคิดว่าคุณเป็นคนยังไง... ( ขออย่างน้อย 2 บรรทัด )**
ธรรมดา
และธรรมดามากกกกกก

47.และ... คุณคิดว่า คนอื่น คิดว่าคุณเป็นคนยังไง ? ( ขออย่างน้อย 6 ประโยค )
Unpredictable
ใจน้อย
เป็นท้อล์คกิ้งดิกเคลื่อนที่
ขับรถเร็ว
เป็นผู้หญิงที่มีดีเทลส์
อารมณ์ร้อนนนน
กะเปิ้บกะป้าบบบบ โก๊ะๆ งงๆ

อ้าววว จบแล้วหรอ 555

เกรียน

ภาษาไทยวันละคำวันนี้ขอเสนอคำว่า เกรียน
หากเปิดหาคำนี้ใน พจนานุกรรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หน้า 141
จะพบว่าถูกนิยามความหมายไว้ 3 ความหมายด้วยกันดังนี้เกรียน

๑ [เกรียน] ว. สั้นเกือบติดหนังหัว ผิวหนังหรือ พื้นที่
เช่น ผมเกรียน หมาขนเกรียน หญ้าเกรียนเกรียน
๒ [เกรียน] ดู เลี่ยน ๑.เกรียน
๓ [เกรียน] น. แป้งซึ่งนวดด้วยน้ำร้อนแล้วไม่น่าเป็นเม็ดปนอยู่ เม็ดนั้นเรียกว่า
เกรียน; เรียกปลายข้าวขนาดเล็กว่า ข้าวปลายเรียน

แต่วันนี้ผมไม่ได้มาพูดถึงคำนี้ตามที่พจนานุกรรมให้นิยามไว้หรอกนะครับ
แต่ผมขอพูดถึงมันในแง่มุมของมนุษย์ Cyber กันดีกว่า
เราจะมาค้นหาความหมายของมันกันและเมื่อรู้ความหมายแล้ว
อย่าลืมสำรวจตัวเองด้วยนะว่าคุณ “เกรียนหรือเปล่า”

ต้นกำเนิดแห่ง เกรียนเกรียน คำนี้มีต้นกำเนิดมาจากที่ใดไม่มีหลักฐานระบุชี้ชัดได้
แต่ที่แน่ๆ บนศิลาจารึก หลักไหนๆ ก็คงไม่มีคำๆ นี้ปรากฏอยู่เป็นแน่
ผู้คว่ำวอร์ดในวงการณ์เกมบางคนบอกว่า
พบเห็นคำนี้ครั้งแรกมาจากเกมออนไลน์ที่มีผู้นิยมเล่นสูงสุดเกมหนึ่ง
ส่วนผู้คว่ำวอร์ดในวงการณ์บอร์ดบอกว่า
เห็นครั้งแรกในเว็บซื้อขายแลกเปลี่ยนที่มีผู้ใช้มากที่สุดแห่งหนึ่ง
ผมจึงไม่สามารถอ้างอิงได้ว่ามันมีต้นกำเนิดจากที่ใดกันแน่
รู้แต่เพียงว่าวันนี้มันถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
การขยายตัวของ เกรียนเกรียน
ไม่ใช่คำด่าพร่ำเพรื่อเหมือนอย่างคำด่าอื่นๆ ที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแห่ง
แต่เป็นคำที่ใช้ เฉพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มคนประเภทหนึ่ง
กลุ่มคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนพิเศษนักวิชาการบางท่านบอกว่า
เป็นอาการของคนที่เสพหญ้ามากเกินไป
จนคอโรฟิวในหญ้าไปอุดตันสมอง
จนส่งผลให้การทำงานของสมองซีกขวา
ซึ่งเป็นสมองด้านของเหตุผลและการเรียนรู้ หดตัวลง
ในขณะที่สมองซีกซ้ายที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อารมณ์ขยายตัวใหญ่ขึ้น
จึงส่งผลให้คนกลุ่มนี้ใช้แต่อารมณ์มากกว่าเหตุผลและการวิเคราะห์ไตร่ตรอง
ดังจะพบพฤติกรรมดังกล่าวได้บ่อยๆ ในเกมออนไลน์ หรือตามเว็บบอร์ดทั่วไป
สาเหตุที่ทำให้คำนี้เกิดการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น
ไม่ใช่เพราะมันถูกนำมาใช้เป็นคำแฟชั่น
หากแต่กลุ่มคนประเภทดังกล่าวขยายตัวมากขึ้นและลุกลามอย่างรวดเร็ว
จนยากที่จะหยุดยั้งได้ต่างหากกลุ่มที่อยู่ในสภาวะเกรียน
หลายคนอาจจะเข้าใจผิดจนเหมารวมไปเลยว่า
เกรียน คือ กลุ่มเด็ก ตั้งแต่ ป.1 จนถึง มัธยมปลาย ที่ตัดผมสั้นเกรียน
สาเหตุที่หลายคนตีความแบบนั้นอาจจะเป็นด้วย
ลักษณะทางกายภาพที่โดดเด่นคือทรงผมที่เลี่ยนเกรียนติดหนังหัว
ซึ่งความจริงแล้วตาม“กฎของ เกรียน” หรือ “เกรียน Law” นั้น
ลักษณะดังกล่าวเป็นเพียงรากศัพท์ของคำว่า เกรียน เท่านั้นเอง
หากแต่ในความเป็นจริง

ตามหลักของ “เกรียน Law”คือ “ความเกรียนไม่จำกัด ทรงผม อายุ เพศ หรือ ฐานะ
ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมในความเกรียนเหมือนกันหมด”

ดังนั้นจึงพอจะสรุปได้ว่า สภาวะเกรียน เป็นสภาวะของพฤติกรรม ทางความคิด
หาใช่ลักษณะทางกายภาพอย่างที่หลายคนเข้าใจกันไม่ทำไมต้อง

เกรียนหลังจากที่ได้ทำการศึกษาและค้นคว้าเป็นเวลาหลายวันผมได้พบว่า
คำเหยียดสติปัญญาคำนี้เกิดขึ้นด้วยสาเหตุที่ว่า
กลุ่มคนที่อยู่ในสภาวะเกรียนส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก และเป็นกลุ่มเด็กที่เล่นเกมออนไลน์
อาจจะด้วยเพราะเกมออนไลน์ในบ้านเรา เปิดกว้างมากจนเกินไป
จนเกิดการกระจุกตัวทางการแสดงออกในสถานที่เดียวกัน
จนเมื่อเด็กๆ เกิดการคลุกคลีกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมบ่อยๆ
จึงดูดซึมพฤติกรรมเลวร้ายเหล่านั้นมาใช้
โดยไม่มีคนคอยให้คำแนะนำ

โดยพฤติกรรที่เราจะพบเห็นได้จากเด็กที่อยู่ในสภาวะเกรียนก็คือ
การกระทำที่ไร้ความคิด พฤติกรรมไร้เหตุผล พฤติกรรมก้าวร้าวทางคำพูดและความคิด
เมื่อเข้าสู่สภาวะเกรียนสมองซีกซ้ายจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว
จนบางครั้งคนที่อยู่ข้างๆ ต้องเข้าระงับสติด้วยการ เบิร์ดกระบาล ซีกซ้ายซะหนึ่งที
ก่อนที่อาการจะลุกลามถึงขั้น “โคบ้า”
ถ้าเป็นพวกวิกฤติหนักๆ ก็อาจจะกลายเป็น “กระบือบ้า” ได้เหมือนกัน

อาการที่เรียกว่า เกรียน- กลุ่ม เกรียน มักจะมีความเชื่อมั่นตัวเองสูงในจินตนาการ
แต่ปฏิบัติตัวตรงกันข้าม อยากเทพแต่ทำตัว***

เกรียนประเภทนี้มีคนให้นิยามจำแนกออกมาเป็น กลุ่ม

เทพเกรียน หรือ King of เกรียน หรือ เกรียน เหนือ เกรียน- กลุ่ม เกรียน มักจะมีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่าบุคคลปกติ และควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ มักแสดงออกทางคำพูด มากกว่าทางความคิด หรือทีเรียกว่า “พูดโดยไม่คิด” ในบางรายจะชอบด่าทอผู้อื่นแบบไร้เหตุผล โดยเชื่อมั่นว่าตัวเองถูกเสมอ จนบางครั้งก้าวล่วงไปถึงบุพการีของผู้อื่น- ชาวเกรียนจะมีความสุขไปกับการ ด่าคนแบบไร้ เหตุผล
และอดีนาลีนของชาวเกรียนจะสูบฉีดรุนแรงขึ้นเมื่อถูกด่าตอบ ชาวเกรียนมีพฤติกรรมที่ชอบเรียกร้องความสนใจ ดังจะพบได้ตามเว็บบอร์ด ในกระทู้ดักควายต่างๆ พอเห็นคนเข้ามาด่าก็นั่งยิ้มชื่นใจ จนกลายเป็นค่านิยมเสพติดของพวกเค้าไปแล้ว

- อาการหนึ่งที่เห็นได้ชัดจาก กลุ่มเกรียนคือจะเป็นกลุ่มคนที่มี IQ และ EQต่ำเนื่องจากไม่ค่อยชอบใช้ความคิด ชอบใช้แต่อารมณ์ สมองไม่สามารถดูดซึมเหตุผลเข้าไปได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องปลุกเร้าอารมณ์ก้าวร้าวจะตื่นตัวในทันที

จะหลีกเลี่ยงสภาวะ เกรียน อย่างไร
สภาวะเกรียนสามารถป้องกันได้โดยการสร้าง “ภูมิคุ้มกันโรคเกรียน” การแบ่งเวลาในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคเกรียนการอ่านหนังสือ สะสมความรู้ ใช้สมองซีกขวาในการตัดสินใจ คิดวิเคราะห์ต่างๆรู้จักระงับอารมณ์ การเป็นคนมีเหตุผล เปิดโอกาสในการรับฟังผู้อื่น เหล่านี้คือผู้ที่จะสามารถหลุดพ้นสภาวะเกรียนได้

นักวิชากรหลายท่านบอกว่า สภาวะเกรียนในเด็กจะหมดไปเมื่อพวกเค้าบรรลุนิติภาวะ แต่ในทัศนะของผมแล้ว การจะหลุดพ้นสภาวะเกรียนได้คุณจะต้องบรรลุนิติภาวะทางความคิด ไม่ใช่อายุ เพราะอย่าลืมว่า ความเกรียนมีอิสระเสรี สามารถเข้าสู่ทุกคนได้ หากคุณมีพฤติกรรมต่างๆ ดังที่ผมได้กล่าวมาแล้วนั้นโปรดระลึกว่า สภาวะเกรียนได้ย่างกรายมาสู่คุณแล้ว อย่าปล่อยให้มันฝังรากเข้าสู่กมลสันดารของเราได้ รีบสะบัดมันให้หลุดพ้น ก่อนที่ชื่อของเราจะถูกเปลี่ยนเป็น “ไอ้เกรียน”

จาก: http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=itums&month=12-2006&date=07&group=7&gblog=1

Saturday, July 18, 2009

ตอน: เรื่องส่วนตัว

มาเล่น 12 คำถามกัน
ตอน: เรื่องส่วนตัว

1. แนะนำตัวจิ
อ่าววว..นึกว่ารู้จักกันแล้ว

2. บอกข้อดีของตัวเองมาสักข้อ
ข้อเดียวเองหรอ..ไม่มีอ่ะ :P

3. ข้อเสียล่ะ
อืมม..ที่เห็นๆ ช่วงนี้ก็คงจะเป็น ทำอะไรที่เป็นรูทีนมากเกินไป
จนตัวเองก็เริ่มรู้สึกไงว่ามากไป
กินพายชนิดเดิมมาสามเดือนแล้ว
กินข้าวกลางวันร้านเดิมเข้าเดือนที่สี่
ไปไหนมาไหนก็ที่เดิมๆ
บางทีการที่ได้เปลี่ยนบ้างมันอาจจะดีกว่าไง
แต่ก็ยัง ไม่ได้คิดจะเปลี่ยน

4. มีคนบอกว่าคุณเป็น..
เป็นอะไรดีหว่า..เป็นคนเอาแต่ใจ ใจน้อย..
..โลเลด้วย..
..ขับรถเร็ว..
..เป็นพวกมีดีเทลส์..
..กะเปิ้บกะป้าบโก๊ะๆ ..
..เป็นท้อล์คกิ้งดิกเคลื่อนที่..
..เป็นคนงง งง..

5. ชอบผู้ชายแบบไหน
แบบที่คุยกันรู้เรื่องอ่ะ
จะมาแบบพูดภาษารัสเซียไรเงี้ย..มะอาวว..
ก็ฟังไม่รูเรื่องนี่หว่า

6. ชอบผู้หญิงแบบไหน
เอ๋า..ถามงี้เกรียนนี่หว่า

7. เวลาว่างทำอะไร
ช่วงนี้หรอ..ทำงาน
ใช่ๆ เวลาว่างก็ทำงาน 555

8. สถานที่โปรด
ชะอำ กะ ภูเก็ต..ไปที่ไรก็เห็นแต่คนรัก

9. ประโยคที่ฟังแล้วจี๊ดดดด
..ไม่มีเวลา..

10. แพลนสำหรับ 1ปี 2ปี และ 3ปี
อืมม์..ปีหน้า..ตอนเด็กมีความฝันหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นได้จริงแล้วในปีหน้านี้
รอมาสิบสาม สิบสี่ปีแล้ว จะจริงซะที
อีกสองปี..ภายในสองปีจะเรียนต่อ
อีกสามปี..คงมีหลานให้ป๋าซะที
หวังว่าแพลนที่มีคงไม่นิ่งเกินไป
กรั่กๆ

11. เลือกรักคนที่เรารักเค้าหรือเค้ารักเรา
ถ้าเลือกได้นะ เลือกคนหลังครับ
เลือกคนที่เค้ารักเรา..มากมาก
:P

12. อยากบอกคนนั้นว่า...
คนไหนอ่ะ มีหลายคน
..เพื่อนอ่ะมีหลายคน..

Thursday, July 2, 2009

แค่ฝันร้าย

ตอนนี้สิบแปดนาฬิกาสองนาทีตามเวลาในประเทศไทย
และเวลาเดียวกันนี้ของพรุ่งนี้..ฉันก็คงไม่ได้นั่งอยู่ที่ทำงานอย่างเคย
เมื่อชีวิตมันต้องเดินทางเมื่อความต้องการมันต้องเดินไป..ต่อไป

เหมือนชีวิตมันหมุนวน
หลงทางเดินไปแล้วก็กลับมาที่เดิมเป็นแบบนี้ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ
เจ็บแล้วเจ็บอีก ก็ไม่จำไม่พอยังอ้อยอิ่ง ยังยื้อกันไป

มีคำถามมากมายที่ไม่มีคำตอบ
แต่มันก็คงไม่สำคัญเท่ากับการที่ฉันยังคงกดดันตัวเองอยู่เสมอ...ตลอดมา

..ความรัก..นับวันจะทำร้ายฉันเขาไปทุกที
และฉันก็โง่เองที่ปล่อยให้เธอกระทำได้อย่างไม่ยั้งมือ
คำรักที่เธอพร่ำบอกกับฉัน..ก็คงไม่ต่างกับที่เธอบอกกับเค้าความรู้สึกที่มีให้กัน..
นับวันมันคงจางไปทุกทีๆ

คำรักจากปายวันนั้น..สำหรับฉันมันยังชัดเจนไม่เปลี่ยน
แต่เธอก็คงดีแค่พูดไป..

รักของเธอมีจริงหรือเปล่า
รักของเธอไม่มีจริงหรอก..ใช่มั้ย
เมื่อทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนี้ก็คงไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องยื้อกันต่อไป

เมื่อคนที่ถูกเลือก..ไม่ใช่ฉันนั่นก็ไม่เป็นไร
ก็ดีแล้วที่เราจะไม่ต้องมีกันและกันแล้วเริ่มเดินออกจากชีวิตกันไป

คล้ายไม่เคยรู้จัก..คล้ายไม่เคยรู้ใจ

อยู่ตรงนั้นเธอก็คงมีความสุขดี
ก็ขอให้มีความสุขดี
ขอบคุณในคำพูดจากปลายสายที่ทำให้ฉันเลือกที่จะก้าวต่อไป
..ชัดเจนและก้องดังให้เจ็บในหัวใจ..

..โทรมามีอะไรครับ จะให้ช่วยเหลืออะไร..
เมื่ออีกคนอยู่ตรงนั้นเธอเลือกที่จะทำร้ายฉัน
ซึ่งก็นึกไม่ออกว่า..นี่ถ้าไม่รักก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร
เธอก็ไม่อยากเสียเค้าไปเหมือนกันใช่มั้ย
ฉันก็เอียนตัวเองที่จะร่วมแบ่งผู้ชายกับใคร
อะไรๆที่ให้ไว้ ก็ขอคืนให้ไปไม่ได้มีอะไรเป็นอะไร..ฉันแค่ไม่ต้องการ

ฉันมาช้าไป และวันนั้นเธอก็ไม่ได้รอ
และในความเป็นจริงก็ไม่รู้จะหาปาฏิหาริย์มาจากไหน
ที่ทำได้ก็คงต้องปล่อยให้มันเลยผ่านและจางไป
เธอเสียใจ..ฉันเองก็เสียใจ

อีกไม่นานมันก็คงเลยผ่านไปปล่อยให้มัน..ผ่านไป
ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่เลือกขอให้เป็นแบบนั้นจริงๆ
ขอโทษนะที่ทำให้ชีวิตวุ่นวาย ขอโทษ

คงไม่มีความจำเป็นใดๆที่เธอจะต้องเข้าวนเวียนในหน้าโพรไฟล์นี้ทุกๆสัปดาห์อีกแล้ว
เอาเวลาตรงนี้ไปรักและดูแลในสิ่งที่เลือก น่าจะเป็นการดีกับชีวิตมากกว่า

เพราะฉันกำลังจะไม่จำอะไร
เพราะทุกอย่าง..ก็แค่ฝันไป..
..และฝันร้ายๆ ก็คงฝันได้แค่ไม่กี่คืน..

Sunday, June 14, 2009

ยังรัก

..วันนี้ฟ้าสวย..
เมื่อวาน..ฟ้าก็สวย
ทั้งที่ฝน..ตั้งเค้าทมึนอยู่ในใจ
ก็ยังอดชมความโดดเด่นของวิถีฟ้าไม่ได้

ฉันไม่ได้เขียนไดอารี่มาสักพัก
ก็ตั้งแต่กุมภาฯที่ผ่านมา
และไม่ได้อัพบล็อกมาครบปีพอดิบพอดี

เนิ่นนานแต่รวดเร็ว

บางครั้งเขียนไม่ออก
บางครั้งเป็นเรื่องของเวลา
แต่บางอย่างเป็นอะไรที่เขียนไม่ได้
และบางอย่างก็อยากจำกัดไว้ให้อยู่ในพื้นที่ของหัวใจ

หากเวลาจะผ่านเลยไป
หรือแม้ว่าอะไรๆ จะถูกลืมเลือนไปด้วยความต่างของชีวิต
ความเป็นไปไม่ได้ความรักและคนรัก
หรือบรรดาเงื่อนไขต่างๆ ที่เราตั้งขึ้น รวมถึงคนอื่นตั้งให้
ฉันเองก็อยากบอกให้รู้วันนี้และตรงนี้ว่า
...เรื่องระหว่างเราที่เกิดขึ้น...
ไม่ว่าจะเป็นตอนไหน
วันไหน หรือวินาทีไหน
...ฉันตั้งใจ...และขับเคลื่อนมันไปด้วยความรู้สึกข้างในที่มี

ขอให้เธอได้รับรู้ในเรื่องราวของเรา
ว่าฉันตั้งใจ...
ไม่ใช่เพราะเธอเหมือนเค้า ที่เรียกความรู้สึกของฉันคืนมา
จริงๆ แล้วก็ไม่รู้จะอธิบายเหตุผลยังไง
ในเมื่อบางทีมันก็มีแต่ทฤษฎีที่ไม่ได้มีเหตุผลมาประกอบ
เมื่อวันนี้...ฉันก็ยังรักเธออยู่เหมือนเดิม

เมื่อถึงทางแยก
เราก็ควรต้องแยกทาง
เราฝืนมันต่อไปไม่ได้ ไม่ไหว
ฉันอยากกอดเธอให้แน่น แล้วบอกว่าฉันเจ็บเหลือเกิน
แม้มันจะเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว
แต่ฉันก็ควรต้องทำใจ

ฉันอยากให้มันถึงวันที่ฉันวางใจได้ดีในเรื่องของเรา
ไม่ให้อะไรๆ มันมากระทบใจ
เพียงให้เธอสบายดี ฉันเองก็สบายใจ

ฉัน..ในตอนนี้
แทบยืนไม่ไหว..คิดถึงเราทีไร น้ำตาก็ไหลนองหน้าทุกที
ไม่น่าเชื่อใช่ไหม..ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ
มันจะพันผูกฉันไว้กับเธอมากมายขนาดนี้
ฉันเองก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน

ยังคงเป็นห่วง
ยังคิดถึง อยากเจอ
ร้อนรุ่มที่เห็นเธอเงียบไป
ไปไหน ทำอะไร อยู่กับใคร

ท่ามกลางความเงีบย...ฉันเห็นเธอ
แม้ในฝูงชน...ฉันก็ยังคงเป็นเช่นนั้น

เฝ้ารอและรอคอยตลอดมา
แม้จะช่วงเสี้ยวนาที แค่ได้ยินเสียง
และให้รู้ว่าเธอสบายดีและไมได้เป็นอะไร
ฉันก็พอใจ

ฉันรู้สึกกับเธอมากจริงๆ

เรื่องราวของเรายังคงวนเวียนอยู่ในความคิด
และยิ่งฉันพยามจะลืมมากเท่าไหร่
หัวใจก็คล้ายถูกกรีดมากเท่านั้น

แต่ฉันก็รู้ดีว่าจะควรทำใจ
แม้ฉันไม่เข้มแข็งมากพอในวันนี้
แต่วันหนึ่งอันใกล้...ความรู้สึกมันก็จะจางและหายไป
จดจำได้เพียง...เราเคยรักกัน

ฉันไม่อาจโทษใคร
เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดของเรา..ฉันตั้งใจ
และไม่เสียใจที่คืนนั้นฉันขอจับมือและสารภาพกับเธอออกไป

หากวันนี้ความรู้สึกของเธอที่มีกับฉันมันเปลี่ยนไป
ก็คงไม่เป็นไร
เพราะฉันเองก็ควรทำใจ
มันไม่มีทางเดินให้สำหรับการที่เราจะมาเป็นคนรักกัน
เราควรทำใจ

ฉันเสียใจ ฉันเองก็เสียใจ

จริงๆแล้ว มันมีหลากหลายวิธีการในการทำใจ ตัดใจ
แต่ไม่ว่าจะวิธีไหน...หากใจเรายังไม่พร้อม
เรายังรู้ดีว่าใจเรายังมีเงาใครบางคนอยู่ข้างใน
ต่อให้หนีไปไกลแค่ไหน...ก็ไม่ได้ผลอยู่ดี
ฉันเองก็ไม่รู้จะหนีทำไม เพื่ออะไร
แต่ฉันรู้ว่าวันหนึ่งอันใกล้
ฉันจะวางใจในเรื่องนี้ได้ดี

นับวันความรู้สึกฉันที่มีกับเธอ
แท้จริงมันไม่ได้จางหาย
แต่มันถูกเก็บกดให้ลึกลงไป เหยียบให้ลึกลงไป
ไม่ให้เธอไดรับรู้...หรือสัมผัสมันได้อีก
ช่วงหลังที่รู้สึกอะไรๆ มันเปลี่ยนไป
เราบอกเล่าความรู้สึกต่อกันน้อยลง
สำหรับเธอ...ระหว่าเรามันคงเปลี่ยนไปแล้ว
แต่กับฉัน...เวลาที่ได้บอกเล่าออกไป
ฉันรับรู้ได้ถึงความอ่อนแอในตัวเองที่มี
ก็เลือกที่จะนิ่งๆ ให้คำถามเล่านั้นเลยผ่านไป
หรือเลือกที่จะไม่ได้ยินบ้าง ให้ความเข้มแข็งมันเพิ่มขึ้น
ตลกใช่ไหม? ทั้งๆที่...มันอยู่เต็มหัวใจ

ทั้งๆที่ยังกรุ่นอยู่...ในหัวใจ

Sunday, May 31, 2009

ตอน: เรื่องของเพลง

มาเล่น 12 คำถามกัน
ตอน: เรื่องของเพลง

1. เพลงที่ชอบกับเพลงที่ใช่

เหมือนคนที่ชอบกับคนที่ใช่ปะนี่
อ่ะ งง งง งง
ตอนนี้ชอบ.. "Come back to me" (Utada Hikaru)
ตอนนี้โคตรใช่.. "Unfaithful" (Rihanna)

2. ใครบังเอิด..บังอาจ! กดเปลี่ยนเค้าโกดดดดนะตะเองงง

I dont know why; Norah Jones(จะเวิร์คมาก ถ้าตอนนั้นฝนตกด้วย)
Come away with me; Norah J.(แสงเทียน สายตา อ้อมกอดอุ่นๆ ของคนรัก โอ้วว..เกาหลีมั่กมากกกก)

3. ฟังครั้งแรกแล้วหลงรักเลย

Baby one more time; Britney Spear
Lips of an angel; Hinder
La Vie En Rose; Edith Piaf

4. เพลงมาร์ชชาติรัก

ขอให้ผม .. ของพี่โป้ง โยคีครับ
La Vie En Rose .. ของเอดิธครับ

5. ถ้าอกหัก ต้องฟังเพลงนี้

โห้...มีหลายเคสนะอกหักแบบไหนอ่ะ อกหักหรือหักอก หรือยังไง
งั้น...ติ๋ม ของพี่ป๊อดล่ะกัน
อ่ะ งง งงอ่ะ งง อีกอ่ะ จะงงเอาโล่ห์หรอครับพี่น้องงง

6. ท่อนฮุคติดปาก

..เมื่อเธอเลือกอยู่กับเค้า ตัวฉันคุกเข่าสั่นไหว..(โอ้ว.. ซีเรียสไปป่ะเนี่ย)
..อีกอัน..
..ตึ้งวันมีบ่าวมาแอ่ว มาอู้มาแซว เป๋นคนเจียงฮายย..(เฮ้ยๆๆ ยังไงๆ ร้องผิดปะเนี่ย)

7. เพลงนี้มีคนให้มาอืมม์

...ความลับอ่ะ ไม่อยากบอก
แบบกลัวสื่อเขียนพาดพิงอ่ะ สัญญานะว่าต้องปกป้องแหล่งข่าว
งั้น..ตามข้างล่างเลยน้อง...(เย๊ยยยย)

แค่ได้พบเธอ..พีโอพี
You and I .. Scorpion
I'm yours .. Jason M.
โอ้ย โอ้ย .. อ่ะ อันนี้ไม่รู้ให้มั้ย เห็นร้องให้ฟัง
เติลร้องแบบคลาสสิคร็อคเลยหน่องเห้ออ ซ้ามารถหยั่งแรงงงงนิ

8. ฟังเพลงนี้..เซ็กซี่วูบวาบบบ

Turn me on .. Norah J. (โนราห์อีกแระ)

9. ได้ยินมะไหร่ต้องขยับยักย้าย
Give it to me.. Timberland

10. เพลงที่เพิ่งฟังไปล่าสุด

ขอโทษที โทษที โทษที้ ที่ไปสีคนมีเจ้าของ(เค้าเปิดวิทยุกานน ตอนไปกินข้าวว)

11. ถ้าต้องร้องเพลงหน้าชั้นเรียนอีกครั้ง จะร้องเพลงอะไร

อูยยย..ย้อนกลับไปนานเลย (แหม ก็เกินไป เพิ่งไม่กี่ปี)
อืมม์.. ไม่อยากร้องอ่ะ ขอเต้นเป็นแดนซ์เซ่อร์ได้ปะขั้นเทพๆ คอนเฟิร์มมมม!!

12. คิดว่าตัวเองเป็นแนวเพลงแบบไหน

โห้...อย่ามาเกรียนหว่ะอ่ะ...ยากเชียว -_-"
ชอบอะไรที่ง่ายๆ ธรรมดาๆ อย่าง..
แจ๊สบรรเลงได้น่าตื่นเต้นราวซิมโฟนี่นัมเบอร์ทรี-แอฟเมเจ้อร์ของบรามห์
ร่าเริงดั่งไวโอลินของบาช
เงียบงันคล้ายเปียโนโซนาต้าอินซีไมเน้อร์ของเบธโฮเว่น
นุ่มลึกร่ำไห้เทียบเคียงรีเควียมเควี หกสองหกของวอฟกัง อะมาเดอุส โมสาร์ต
ผสมกลิ่นสกาแบบละตินอเมริกาและจาไมก้า
เข้าสู่แอฟริกาอเมริกาฮิฟฮอฟแบคกิ้งบีทนิดๆ
สอดผสานคล้ายร่ายขลุ่ยน้ำเต้าอยู่บนเชิงเขาหิมาลายา
ท่ามกลางดอกไม้และสายหมอกปะปนความดุเดือนตอนที่ขงเบ้งปะลองกู่เจิ้งกับท่านซุนกวน
อ่ะจ้ะ พอจะมีใครเซ้นซิทีฟเข้าใจดาวมั้ยค่ะเนี่ย