เมื่อสำเนียงส่อ(เค้า)ของภาษา และที่มาของบุคคลนั้น วันนี้จึงขอนำเสนอให้คุณผู้อ่านได้รู้จักกับหลายหลายสำเนียง สำหรับคนที่มีชั่วโมงบินในการใช้ภาษาอังกฤษในระดับกลางหรือระดับสูง สำเนียงจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราจะสามารถเดาได้ว่าเขาหรือเธอผู้นั้นมาจากไหน หรือน่าจะมีความสัมพันธ์กับชาติใดเป็นพิเศษ
สำเนียง ในที่นี้ภาษาอังกฤษเรียกว่า Dialect (ได อะ เล็คทึ) หรือ Accent (แอคเซ่นทึ) ซึ่งจะหมายถึงสำเนียงที่เป็นสำเนียงท้องถิ่น สำเนียงเฉพาะกลุ่ม รวมไปถึงการออกเสียงและการเน้นย้ำคำ (Stress = สเตรท หรือ Emphasize = เอ็ม ฟา ไซส์ แปลว่า เน้น ย้ำ) คำศัพท์หรือทับศัพท์ที่ใช้ในกลุ่มนั้นๆ โดยแบ่งได้ตามแต่ละท้องถิ่น ประเทศ ภูมิภาค ไปจนถึงทวีป
Ex.
He has a very strong German accent.
(ฮี แฮส อะ เวรี่ สตรอง เจอร์แมน แอคเซ่นทึ)
เขาพูดมีสำเนียงคนเยอรมันมากๆ
The immigrant spoke dialect of English.
(ดิ อิมมิแกร้นท์ สโปค ไดอะเล็คทึ ออฟ อิงลิช)
ผู้อพยพพูดสำเนียงอังกฤษ
The language is a dialect with army.
(เดอะ แลงเกวจ อีส ไดอะเล็คทึ วิธ อาร์มี่)
ภาษานั้นมีสำเนียงของทหาร
(ภาษาที่พูดนั้นมีศัพท์บางคำที่บ่งบอกถึงความเป็นทหาร)
จริงๆแล้วในแต่ละประเทศก็จะมีเอกลักษณ์การพูดแตกต่างกันออกไป แบ่งตามทวีปได้ดังนี้
-Europe
British, English, Estuary, Cockney, East Anglian, Lancashire, Yorkshire, Scouse (Liverpool), Scottish, Welsh, Hiberno-English (Ireland) and so on*.
-North America
American, African, Boston, California, Chicano, General American, New England, New Jersey, NY, North Central American, Southern American, Canadian, Pennsylvania Dutch English, Utah, Newfoundland, Quebec, West-Central Canadian, Carribean, Jamaican and so on.
-Oceania
Australian, Australian Aboriginal, Torres Strait, New Zealand and so on.
-Asia
Burmese, Hong Kong, Indian, Singaporean, Thai, Indonesian, Philippine and so on.
-Africa
Cameroon English, Liberean, South Africa and so on.
*and so on แปลว่า อื่นๆอีกมากมาย* เช่น
My favorite fruits are longan, apple, orange and so on.
(มาย เฟเวอร์ริท ฟรุ้ตส์ อาร์ ลองแกน แอ๊ปเพิ้ล ออแรนจ์ แอนด์ โซ ออน)
ผลไม้โปรดของฉันคือ ลำไย แอปเปิ้ล ส้ม และอื่นๆอีก
มาที่สำเนียงกันต่อ จะเห็นได้ว่าภาษาอังกฤษที่ว่าป็นภาษากลางนั้นดูท่าจะไม่กลางก็เพราะเจ้าสำเนียงนี่แหละค่ะ นอกจากสำเนียงจะบ่งบอกถึงผู้พูดแล้ว อิทธิพลของภาษาเดิมหรือภาษาท้องถิ่นส่งผลให้ความต่างเกิดขึ้นในตัวภาษาอังกฤษ ทั้งการออกเสียง โครงสร้างทางภาษาบางส่วน และการนำไปใช้ ตัวอย่างเช่น การพูดภาษาอังกฤษด้วยการคิดเป็นภาษาไทยก่อน ดังนั้นภาษาอังกฤษจึงเกิดความผันผวนค่อนข้างมากทำให้เกิดความต่างจาก Standard English และความผันผวนตัวนี้เองที่มีส่วนทำให้ภาษาอังกฤษถูกเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ภาษาจึงไม่ตายแต่กลับกลายเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น
วันนี้ขอคัดมาเฉพาะสำเนียงเด่นๆ มาให้รู้จักกันนะคะ
อังกฤษสำเนียงอังกฤษ (British English: BrE, BE)
หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าสำเนียงนี้ไพเราะและมีเสน่ห์นักหนา--แต่ฟังยากมาก..กก++ อ่ะ อันนี้ประสบพบเจอมากับตัว พานพบว่าเอ๊ะฉันคุยกับมะนาว(ต่างดุ้ด) อยู่หรือเปล่าเนี่ย แม้แต่คนที่พูดสำเนียงนี้ยังทราบถึงความยากในสำเนียงตัวเอง หากคุณเป็นผู้ฟังแล้วล่ะก็..นอกจากจะต้องทำใจแล้ว การบอกให้เค้าพูดช้าลง ก็เป็นเรื่องที่สมควรทำอย่างยิ่ง
หากสนใจอยากจะฟังสำเนียงแบบอังกฤษอังกฤษนี้ ลองไปหาหนังมาดู เช่น เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ (ภาคไหนก็ได้) หรือ Loard of the Ring ก็ได้ค่ะ หรือจะเป็นหนังที่ ฮิว แกรนท์ (Hugh Grant) เล่น เช่น Music and Lyrics, Notting Hill, Bridget Jones' Diary2 (The Edge of Reason), Two week notice หรือพระเอกสุดแสนจะเซ็กซี่อย่าง ออแลนโด้ บลูม (Orlando Bloom), ไคล์ฟ โอเว่น (Clive Owen), จู้ด ลอว์ (Jude Law), โรแวน แอทคินสัน (Rowan Atkinson) หรือที่เรารู้จักกันในนามของมิสเตอร์บีน (Mr.Bean) ก็พูดสำเนียงอังกฤษทั้งนั้นค่ะ มาถึงนักแสดงสาวบ้างนะค่ะ เช่น เรเน่ (Renée Zellweger) นางเอกในเรื่อง Bridget Jones' Diary และ Miss Potter หรือดาราสาวพราวเสน่ห์อย่างเคียร่า ไนท์ลี่ (Keira Knightly) นางเอกเรื่อง Pirates of the Carribbean, Love Actually และพลาดไม่ได้กับเรื่อง Pride and Prejudice
นอกจากนั้นใครที่เป็นแฟนกีฬาคงไม่พลาดช่อง ESPN ใช่ไหมค่ะ แต่บังเอิญว่าผู้เขียนไม่ได้เป็นผู้หญิงคลั่งกีฬา (ถ้าคลั่งนักกีฬาก็พอได้..อิอิ) ดังนั้นบางครั้งที่อยู่บ้านจึงเป็นเพียงเสียงเดียวที่ไม่อยากดูช่องนี้ แต่ไหนๆก็ไหน หัวเดียวกระเทียมลีบทำอะไรก็ไม่ได้ อย่ากระนั้นเลยเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสด้วยการฝึกฟังเสียงและสำเนียงจากทีมพากย์ซะ...เท่านี้ก็หมดปัญหา ^_^
ดังนั้นช่อง ESPN หรือช่องสปอร์ตต่างๆ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการฝึกฟังสำเนียงแบบต่าง ทั้งในยุโปและทวีปอื่นๆ เช่น สำเนียงสเกาเซอร์ (Scouser-สำเนียงที่ใช้ในเมืองลิเวอร์พูล) ของคุณสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด (Steven Gerrard) กองกลางคนสำคัญของทีมหงส์แดง หรือคุณเวน มาร์ก รูนีย์ (Wayne Mark Rooney) กองหน้าของทีมผีแดง หรือสำเนียงค็อกนีย์ (Cockney-สำเนียงที่ใช้ในแถบ East End of London) เช่น คุณแพท ไรซ์ (Patt Rice) ผู้ช่วยผู้จัดการทีมอาร์เซนอล หรือสำเนียงสก็อตแท้ๆ ของท่านเซ่อร์เฟอร์กี้ (Sir Alexander Chapman Ferguson) ที่แม้แต่ตัวผู้เขียนยังยอมรับในอภินิหาร...ว่าฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ เช่น คำว่า Come On เค้าจะออกเสียงว่า "เคมโมน" สำเนียงท่านเซ่อร์ฯ ก็ถือเป็นปัญหาสำหรับนักเตะต่างชาติอย่าง โซลชาร์ (Ole Gunnar Solskjær-ชาวนอร์เวย์), โรนัลโด้ (Cristiano Ronaldo-ชาวโปรตุเกส) บ้างเหมือนกัน หลายครั้งที่ได้แชมป์มาครอง คงเพราะอาศัยดวงมากว่า..ว่ามั้ย!? (อิอิ..พอดีผู้เขียนไม่ได้เป็นเด็กผี...แต่เป็นแฟนทีมบีอีซี เทโรฯ...!?)
อังกฤษสำเนียงอเมริกัน (American English: AmE, AE)
เป็นอีกหนึ่งสำเนียงที่คล้ายพูดอยู่ในลำคอ งึมงำๆ กันเข้าไป จะพูดให้ชัดๆหน่อยก็ไมได้ แต่ที่เรารู้สึกว่าสำเนียงนี้ฟังง่ายกว่าสำเนียงแบบอังกฤษ อาจจะเป็นเพราะว่าความคุ้นชินที่ดูหนังจากฮอลิวูด เพราะนักแสดงส่วนมากมักติดสำเนียงอเมริกัน
แต่แค่การพูดยังไม่หนักใจเท่ากับอภินิหารการใช้ Phrasal Verb (เฟร-ซึล เวิร์บ) ของท่านทั้งหลายที่ทำเอาคนฟังเวียนเฮดกันไปตามๆกัน ลองดูตัวอย่างหน่อยนะ
When will you set forth for China?
(เว็น วิล ยู เซ็ท ฟอร์ธ ฟอร์ ไชน่า)
เธอจะไปเมืองจีนเมื่อไรจ้ะ
set forth แปลว่า ออกเดินทาง
He always stands on the regulation.
(ฮี ออลเวย์ส์ สแตนส์ ออน เดอะ เรกกิวเรชึ่น)
เขาทำตามกฎเสมอ
stand on แปลว่า ทำตาม
หลายคนที่ยังไม่รู้จักเจ้า Phrasal Verb นี้ ก็ไม่ต้องตกใจนะคะ ขออธิบายคร่าวๆ ว่า Phrasal Verb คือ การนำคำกริยามาผสมกับ Adverb (คำขยายกริยา เช่น away, up) หรืออาจจะผสมกับ Preposition (คำบุพบท เช่น in, on, at, under) จนได้คำใหม่ที่มีความหมายคล้ายคำกริยาตัวนั้น หรือบางครั้งความหมายก็ต่างออกไป เอาคร่าวๆ เพียงเท่านี้ก่อน เรื่องของเจ้าตัวปัญหา Phrasal Verb นี้จะนำมาเสนอในโอกาสต่อๆไปค่ะ
ลองดูตัวอย่างการออกเสียงเปรียบเทียบระหว่างสำเนียงอังกฤษ (BrE) กับสำเนียงอเมริกัน (AmE) บ้างนะค่ะ
Water
BrE โวเท่อร์ AmE วอเดอร์
Toyota
BrE ทะโยถ่ะ AmE ทะโยดะ
City
BrE ซิเท่ AmE ซิดิ
Computer
BrE คอมพิวเทอร์ AmE คอมพิวเดอร์
Walk
BrE โว้ล์ค AmE วอล์ค
Behind
BrE บิฮัยด์ AmE บะฮายด์
Here
BrE เฮร์ AmE เฮียร์
Later
BrE เลเถ่อะ AmE เลเดอร์
อเมริกาเป็นประเทศที่ใหญ่มากทำให้สำเนียงภายในก็ต่างกันออกไปอย่างหลากหลาย แถมบางคนก็ไม่ได้เป็น Native Speaker (เนทีฟ สปีคเก่อร์ คือผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่/ ภาษาหลัก) ทำให้สำเนียงของภาษาก็ต่างกัน นอกจากนั้นอเมริกายังเคยตกเป็นอาณานิคมของประเทศต่างๆ เช่น อังกฤษ สก็อตแลนด์ สวีเดน ฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่มีความหลากหลายในสำเนียง และหากลองคิดดูกันเล่นๆว่า ภาษาไทยของเราแบ่งสำเนียงเด่นๆ ได้เป็น เหนือ อีสาน กลาง ใต้ ส่วนความกว้างใหญ่ของสหรัฐอเมริกานั้นเท่ากับ 20 เท่าของประเทศไทยโดยประมาณ เช่นนั้นแล้วจะมีกี่สำเนียงกันนะ...
อย่าไปนับให้ปวดขมองเลยค่ะ อย่างไรก็ตาม คุณผู้อ่านไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพียงแค่สำเนียงไม่ถือว่าเป็นตัวอุปสรรคหลักสำคัญที่จะก่อให้เกิดปัญหาทางการสื่อสารมากมาย หรือยุ่งยากวุ่นวาย จนเกิดความไม่เข้าใจกัน วันนี้ที่เอาเรื่องสำเนียงมานำเสนอ เพื่อให้คุณผู้อ่านรู้จัก และสังเกตการออกเสียงเพื่อบ่งบอกถึงที่มาของบุคคลคนนั้น เผื่อว่าในวันข้างหน้าจะได้นำไปใช้ประโยชน์ได้บ้างค่ะ
โดยส่วนตัวผู้เขียนนั้นนิยมทุกสำเนียงค่ะ เพราะถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งในการเรียนภาษา ส่วนเรื่อง Standard English ผู้เขียนมองว่าแท้จริงมีเพียงในภาษาเขียนเท่านั้น หัวใจหลักสำคัญของภาษา คือการสื่อสารที่ก่อให้เกิดความเข้าใจในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม การดำเนินชีวิต ความคิด อุดมการณ์ หรือศาสตร์ในแขนงต่างๆ ดังนั้นไม่ว่าเราจะพูดภาษาอังกฤษสำเนียงไหน ขอให้สื่อสารกันเข้าใจ เป็นใช้ได้ค่ะ หรือแม้แต่จะมี Body Language เข้ามาช่วยบ้าง อันนี้ก็ไม่ว่ากันค่ะ (บอดี้ แลงเกวจ = ภาษากาย--แต่ในที่นี้แปลว่าภาษามือค่ะ)
และในสัปดาห์หน้ายังคงนำเสนอเรื่องราวของสำเนียงและเป็นสำเนียงที่กำลังมีอิทธิพลต่อการพูดจาของวัยรุ่นชาวอเมริกันเป็นอย่างมาก รวมถึงสำเนียงน่ารักๆ แบบชาวญี่ปุ่นกัน ติดตามให้ได้นะค่ะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ
Tuesday, January 22, 2008
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
4 comments:
อ่อ ...... มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
-*- . . . . . 9.9 นะคะ ระวังจะตก
555
สงสัยมีเธอกะฉันที่อ่านบล็อกนี้กันสองคนแน่เลย
ยังไงก็จะทำให้ดีที่สุด...อย่างน้อยก็เคยได้ 9.9 ล่ะนะ
อิอิ
อ่ะ ขอเข้ามาอ่านด้วยอีกคนนะ
Post a Comment