Wednesday, January 9, 2008

สวัสดีปีใหม่ 2551

สวัสดี ปีใหม่แล้วนะคะ ตั้งใจหรือตั้งปณิธานว่าจะทำอะไรกันบ้างหรือเปล่าเอ่ย ส่วนตัวผู้เขียนก็ตั้งใจว่าจะพยามเขียนบทความเพื่อนำความรู้สู่คุณผู้อ่านต่อๆ ไป แต่ตอนนี้เริ่มเขียนไม่ทัน (อิอิ) เพราะในการเขียนแต่ละครั้งจะต้องหาข้อมูล เพื่อผู้ที่เข้ามาอ่านจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ยิ่งเรื่องที่เราไม่รู้ก็จะยิ่งต้องอ่านจากหลายๆแหล่งแล้วนำมาสรุปเพื่อเขียนเป็นบทความ ดังนั้นจึงเกิดความล่าช้าในการเขียนบ้างครั้ง ขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่าช่วงนี้อาจจะต้องเว้นระยะความถี่ในการเขียนบทความ เพราะมีงานการที่ต้องสะสางนิดหน่อย (ก่อนที่จะโดนคุณเจ้านายฆ่า--อิอิ) แต่อย่างไรก็จะแจ้งไปทางอีเมล์ของคุณผู้อ่านเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง หรือมีบทความใหม่ๆ นะคะ ใครที่อยากได้การแจ้งเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงก็ฝากอีเมล์ไว้ได้ค่ะ และต้องขอขอบคุณบรรดามิตรรักแฟนคอลัมน์ที่ค่อยไถ่ถามถึงที่อยู่ของบล็อก แถมใจดีส่งต่อให้บรรดาเพื่อนฝูง พี่น้อง อ่านต่อๆกัน ผู้เขียนยินดีเป็นอย่างยินค่ะ ทำให้มีพลังและกำลังใจที่จะเขียนต่อไปเรื่อยๆ และบุคคลอีกคนที่คอยช่วยทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการให้ก็เป็นพี่ชายของฉันเอง (ขอบคุณมากๆ แต่ช่วยลดความโหดในการวิจารณ์ลงจะดีใจมาก -_-")

เริ่มชิดแชทกันด้วยประโยคคำถามหากต้องการถามว่า
*ปีใหม่นี้ตั้งใจจะทำอะไร*
"What is your New Year Resolution?"
(ว้อท อีส ยัวร์ นิว เยียร์ เรซอลูชั่น)

"Resolution" (เรซอลูชั่น) หมายถึง ความตั้งใจ มุ่งมั่น มติ ปณิธานที่ตั้งไว้
เวลาตอบก็ตอบแบบทวนคำถามก็ได้ค่ะ

"My New Year Resolution is _______."
(มาย นิวเยียร์ เรซอลูชั่น อีส ______ )
แปลว่า ความตั้งใจ ปณิธาน ที่จะทำในปีใหม่นี้คือ _______
หรือจะตอบสั้นๆ ก็ได้ ลองดูตัวอย่างบทสนทนาด้านล่างนะคะ

Duncan: What is your New Year Resolution?
ดันแคน - ว้อท อีส ยัวร์ นิว เยียร์ เรซอลูชั่น
(ปีใหม่นี้เธอตั้งใจจะทำอะไรกันน่ะ)
Zumi: My New Year Resolution is to pay more attention to Japanese.
ซู่มี่ - มาย นิวเยียร์ เรซอลูชั่น อีส ทู เพย์ มอร์ แอทเทนชึ่น ทู เจแพนนีซ
(อ๋อ ฉันนะจะเอาใจใส่ ตั้งใจกับภาษาญี่ปุ่นให้มากกว่านี้)
Tozz: I would like to be a chef. Well, how about yours?
ทอซ - ไอ วู้ด ไลค์ ทู บี อะ เชฟ. เวลล์ ฮาว อเบาท์ ยัวร์ส์
(ส่วนฉันก็อยากเป็นพ่อครัวนะ -- ว่าแต่ของเธอล่ะดันแคน)
Duncan: Sincerely, I have no clue.
ดันแคน - ซินเซียร์ลี่ ไอ แฮฟ โน คลู
(จริงๆนะ ฉันเองยังไม่รู้เลยว่าอยากทำอะไร)

จากบทสนทนาข้างบน เราลองมาดูคำศัพท์และประโยคที่น่าสนใจกันบ้าง
เริ่มจาก...

-To pay attention to
(ทู เพย์ แอทเท่นชึ่น ทู)
แปลว่า สนใจ เอาใจใส่กับ เช่น

Passengers are paying attention to airline announcement.
(แพสเซ็นเจอร์ส์ อาร์ เพย์อิ่ง แอทเท่นชึ่น ทู แอร์ไลน์ แอนเน้าซ์เม้นท์)
ผู้โดยสารกำลังเอาใจใส่กับการประกาศของสายการบิน

You should pay more attention to your daughter.
(ยู ชู้ด เพย์ มอร์ แอทเท่นชึ่น ทู ยัวร์ ดอเท่อร์)
คุณควรจะเอาใจใส่ลูกสาวคุณมากกว่านี้

Attention please, attention.
(แอทเท่นชึ่น พลีส, แอทเท่นชึ่น)
เรามักจะได้ยินประโยคนี้ตอนที่เราอยู่สนามบิน หรือห้างสรรพสินค้า ก่อนที่จะมีประกาศแจ้งให้ทราบตามมา ซึ่งประโยคนี้ก็แปลจริงๆได้ว่า “กรุณาสนใจหน่อย ขอความสนใจหน่อย” ทำนองนี้นะคะแต่เพื่อความสละสลวยแปลว่า “โปรดทราบ” ดีกว่าค่ะ

กลับมาที่บทสนทนานะคะ สังเกตว่าหลังจากที่ทอสตอบคำถามแล้ว เค้าก็ถามกลับว่า “how about yours?” ถือเป็นมารยาทที่สำคัญที่เราจะต้องถามคู่สนทนาเรากลับไป การถามกลับจะแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับคู่สนทนาและบทสนทนามากแค่ไหนค่ะ

ความต่างของ
“How about you?”
แปลว่า “แล้วคุณล่ะ”
“How about your ______?”

แปลว่า “แล้วของคุณล่ะ” ต้องมีนามตามหลัง
“How about yours?”
แปลว่า “แล้วของคุณล่ะ” ไม่ต้องมีนามตามหลัง

*สามารถใช้ “What” แทนได้ทุกกรณี (แปลเหมือนกันและใช้เหมือนกัน)*
“What about you?”
“What about your ______?”
“What about yours?”

ลองดูตัวอย่างนะคะ
Ex.1
A: Hi, How’s going?
(เอ: ไฮ, ฮาวส์ โกอิ่ง?)
สวัสดีจ้ะ สบายดีมั้ย
B: I’m good thanks. How about you?
(บี: แอม กู้ด แต้งส์ ฮาว อเบาท์ ยู?)
ฉันสบายดี แล้วเธอล่ะ
A: Not too bad.
(เอ: น้อท ทู แบ้ด)
ก็ไม่เลวนะ

Ex.2
A: I went to Hong Kong and bought many things for my sweet heart. How about your weekend?
(เอ: ไอ เว้นท์ ทู ฮอง คอง แอนด์ บ้อดท์ แมนี่ ติงส์ ฟอร์ มาย สวีท ฮาร์ท. ฮาว อเบาท์ ยัวร์ วีคเค่นด์?)
นี่แก ฉันนะไปฮ่องกงมาแล้วก็ซื้อของมาฝากหวานใจฉันเยอะแยะเลยอ่ะ ว่าแต่วันหยุดแกเป็นไงบ้างล่ะ
B: I did nothing. How about yours, C?
(บี: ไอ ดิด นอทติง. ฮาว อเบาท์ ยัวร์ส์, ซี?)
ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยว่ะ แล้วของแกล่ะ ซี?
C: I went to the beach with your boyfriends!
(ซี: ไอ เว้นท์ ทู เดอะ บีช วิธ ยัวร์ บอยเฟรนด์ส์)
ฉันไปทะเลกับแฟนพวกแกมาวะ!

เห็นความต่างของการนำไปใช้แล้ว ทีนี้คราวหน้าก็คงจะไม่สับสนแล้วนะคะ มาดูประโยคสุดท้ายของวันนี้กันค่ะ
- I have no clue. (ไอ แฮฟ โน คลู)
หรือตอบสั้นๆ ว่า Clueless. (คลูเลส) ก็ได้ค่ะ
= I have no idea. (ไอ แฮฟ โน ไอเดีย)
หรือตอบสั้นๆ ว่า No idea. (โน ไอเดีย)
= I don’t know. (ไอ ด้อนท์ โนว์)
3 ประโยคนี้ แปลว่า “ฉันไม่รู้” ลองดูตัวอย่างนะคะ

Ex.
A: Do you know who he is?
(เอ: ดู ยู โหน่ว ฮู ฮี อีส?)
นี่แกรู้มั้ยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครอ่ะ
B: I don’t know. What about you?
(บี: ไอ ด้อนท์ โนว์. ว้อท อเบาท์ ยู?)
ไม่รู้วะ (หันมาถามเพื่อนอีกคนหนึ่ง) แกล่ะรู้มั้ย
C: No, I have no clue.
(ซี: โน, ไอ แฮฟ โน คลู)
ไม่อ่ะ ฉันไม่รู้

จำเอาไปใช้ได้เลยนะคะประโยค “I have no clue” เก๋ไก๋มากๆๆ เป็นภาษาค่อนข้างจะวันรุ่นหน่อยๆ ค่ะ

นี่ก็เพิ่งปีใหม่หมาดๆ ใครมีปณิธานอะไรตั้งไว้ก็อย่าลืมทำให้ได้ตามเป้าหมายนะคะ เอาใจช่วยค่ะ
พบกันใหม่คราวหน้า สวัสดีค่ะ
Happy New Year 2551

4 comments:

Anonymous said...

อ่า.... เขียนต่อไปเรื่อยๆๆ ความรู้ใหม่ๆ ติดตามอยู่ครับ

ZuMi said...

ยินดีๆๆ

KRISS said...

Happy new year.
Nice articles here.
Keep up the good work!

ZuMi said...

Thank you Khun Kriss..I also appreciate for your coming/ visiting kah.

Happy new year 2008/ I wish you would have a really great year heading na..