Tuesday, December 25, 2007

Colored?

บทกลอนบทนี้เป็นบทกลอนที่สหประชาชาติ หรือ United Nations (UN) เสนอให้เป็นบทกลอนยอดเยี่ยมประจำปี 2006 ซึ่งเขียนโดยหนูน้อยชาวแอฟริกา เป็นบทกลอนที่ใช้ภาษาง่ายๆ ใสๆ หากแฝงด้วยความหมายที่ลึกซึ้งเป็นอย่างมาก
หยิบมาฝาก ยังไงลองอ่านดูนะคะ ...


When I born, I black
(เมื่อฉันเกิด ฉันผิวดำ)
When I grow up, I black
(เมื่อฉันโตขึ้น ฉันก็ยังผิวดำ)
When I go in the sun, I black
(เมื่อฉันอยู่ภายใต้แสงแดด ฉันยังคงผิวดำอยู่ดี)


When I scared, I black
(เมื่อฉันกลัว ฉันผิวดำ)
When I sick, I black
(เมื่อฉันป่วย ฉันก็ผิวดำ)
And when I die, I still black
(และเมื่อฉันตาย ฉันก็ยังคงผิวดำ)


And you white fellow
(เธอละ เพื่อนตัวขาว)
When you born, you pink
(เมื่อตอนเธอเกิด ผิวเธอชมพู)
When you grow up, you white
(เมื่อตอนเธอโตขึ้น ผิวเธอขาว)


When you go in the sun, you red
(เมื่อเธออยู่ใต้แสงแดด ผิวเธอแดง)
When you cold, you blue
(เมื่อเธอหนาว ผิวเธอน้ำเงิน)
When you scared, you yellow
(และเมื่อเธอกลัว ผิวเธอเหลือง)


When you sick, you green
(เมื่อเธอป่วย ผิวเธอเขียว)
And when you die, you grey
(เมื่อเธอตาย ผิวเธอเทา)
And you calling me colored?
(และเธอ...เรียกฉันว่าคนผิวสี?)

Norminated by: UN as the best poem of 2006
Written by: An African Kid
Translated by: Zumi

Friday, December 21, 2007

อาหารกับวัฒนธรรม

นานมากน้อยแค่ไหนที่ถกเถียงกันว่ามะเขือเทศเป็น "ผัก" หรือ "ผลไม้" ในเมื่อท้ายที่สุดมะเขือเทศก็ยังคงทำหน้าที่ของมะเขือเทศต่อไปอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนของความเป็นมะเขือเทศ และไม่ว่ามะเขือเทศนั้นจะสัญชาติใด เราก็ยังคงเรียกมันว่ามะเขือเทศอยู่ร่ำไป บทบาทของมะเขือเทศก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง มีแต่จะรังสรรค์ให้เกิดความหลายหลายในการผสมผสานรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของมะเขือเทศแต่ละพันธุ์

การเลือกสรรวัตถุดิบ ส่วนผสม ส่วนประกอบนั้นเป็นหัวใจหลักในการปรุงอาหาร ประกอบกับวิจารณญาณ ประสบการณ์ การเรียนรู้ของพ่อครัวผู้ที่จะสรรค์สร้างศาสตร์แห่งความอิ่มเอมใจที่เป็นมากกว่าความต้องการของร่างกาย

ในนามของการทำอาหารไม่มีคำว่าถูกหรือผิดที่จะปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ประยุกต์ใช้บางสิ่งที่ต่างออกไปจากที่คนรุ่นก่อนได้บันทึกไว้ หากการณ์นั้นจะทำให้คุณค่าของอาหารเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะทางใดก็ตาม ก่อนที่เราจะเริ่มปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอาหารใดๆ "ราก" ของอาหารนั้นๆถือเป็นหัวใจหลักที่เราจะต้องเรียนรู้

"แกงส้มชะอมทอด"... จะเป็น"แกงส้มชะอมทอด"ไม่ได้...หากเราไม่รู้วิธีจักการทอดชะอม

ดั่งวัฒนธรรมที่สั่งสมกันมา...อย่างที่เราเองก็รับรู้ว่า คนไทยกินข้าวเป็นหลัก คนจีนกินเส้น และชาวตะวันตกกินขนมปัง มันผิดแปลกตรงไหนกันที่บางวัน เราจะอยากกินขนมปังบ้าง...

การเปลี่ยนแปลงจะทำให้เราได้เรียนรู้ในเรื่องราวใหม่ๆ ทั้งที่เหมาะสมกับตัวเราและวิถีชีวิตของเราก็ดีและที่ไม่เหมาะสมก็ดี สิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่กับการที่เราได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ที่ต่างออกไปเพียงเท่านั้น แต่จะยังส่งผลย้ำถึงความเป็นมาของตัวเรา เบื้องหลัง ประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของชาติพันธุ์ และอารยธรรม รวมถึงพื้นเพของถิ่นที่เรามาเผื่อเป็นเครื่องมือที่จะช่วยป้องกันการลืม"ราก"ของเราเอง

และใช่หรือไม่ก่อนที่จะเป็น "Internations" ต้องเริ่มที่ "Nation(s)"

หลังจากที่ประเทศไทยรับความเป็นอินเตอร์เนชั่นเข้ามาสู้อ้อมกอดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเพณีและวัฒนธรรมที่พ่วงมากับภาษาก็ดูจะกลายเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการเข้ามาของชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี และก็มีไม่น้อยที่ส่งผลถึงการดำเนินชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบัน หากพูดกันอย่างแท้จริงเราคงจะกีดกันการเพิ่มขึ้นของการเข้ามาอยู่อาศัยของชาวต่างชาติไม่ได้ แต่เราสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่ พร้อมทั้งผสมผสานให้เกิดความลงตัวกับวัฒนธรรมของเราเองได้ มันไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องมาถกเถียงกันว่า ดีหรือไม่ดี หรือวัฒนธรรมของใครดีกว่ากัน หรือนี่วัฒนธรรมของฉัน และนั่นเป็นวัฒนธรรมของเธอ

เราไม่เหมือนกัน...ไม่ได้หมายความว่าเราจะอยู่ร่วมกันไม่ได้

ยิ่งนานวันก็คงจะได้ยินการเฉลิมฉลองในวันคริสต์มาสเพิ่มขึ้นในบ้านเมืองเรา เห็นได้จากการตกแต่งประดับประดาสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการหรือเอกชน การส่งการ์ดอวยพรให้กับบรรดาเพื่อนๆ หรือคนสนิท รวมถึงการเฉลิมฉลองในวันสำคัญนี้ของชาวคริสต์ศาสนิกชนและไม่ใช่คริสต์ศาสนิกชน และที่เป็นประเด็นให้ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ก็คือวัยรุ่นไทย ที่ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับเทศกาลของชาวตะวันตกอย่างออกหน้าออกตา ผู้เขียนอ่านข่าวหลายวันก่อนพบว่า การฉลองวันคริสต์มาสของวัยรุ่นไทยเพิ่มสูงขึ้นทุกปีๆ ไม่นับรวมการเฉลิมฉลองในเทศกาลอื่นๆ เช่น วันอีสเตอร์ วันฮาโลวีน วันฮานูก้ามีเริ่มมีเค้าลางว่าจะเพิ่มสูงเช่นกัน ในมุมมองของผู้เขียนเองมองว่า คงไม่ใช่แค่วัยรุ่นเท่านั้นที่มีการเฉลิมฉลองในวันนี้ แต่น่าจะเป็นคนทุกกลุ่มที่มีการติดต่อกับชาวต่างชาติ หรือแม้แต่คนไทยแท้ๆ ที่เติบโต หรือศึกษาในต่างประเทศ

มองในมุมกลับ การเฉลิมฉลองในวันตรุษจีนกลับไม่เป็นประเด็นเท่ากับวันคริสต์มาส

ต้นไม้จะมีใบหรือออกดอกผลไม่ได้หากปราศจาก "ราก" ดังนั้นไม่ว่ามะเขือเทศจะเป็นผักหรือผลไม้ มะเขือเทศก็ยังคงทำหน้าที่ได้ไม่บกพร่อง ส่วนคนไทยจะกินข้าวหรือขนมปัง อันนี้แล้วแต่ความชอบค่ะ ในปริมาณที่พอดี ผู้เขียนขอทานข้าวเป็นอาหารหลัก และเลือกขนมปังเป็นอาหารว่างค่ะ...

วันคริสต์มาส

"สุขสันต์วันคริสต์มาส" "เมรี่คริสมาสต์" ช่วงนี้เราคงได้ยินคำอวยพรเหล่านี้ รองจากการคุยโม้โอ้อวดสรรพคุณของผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งหลาย และเพื่อเป็นการต้อนรับวันคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง สัปดาห์นี้จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้เขียนจะมาสร้างความกระจ่างความเป็นมาของวันสำคัญของชาวคริสต์ศาสนิกชนให้คุณผู้อ่านค่ะ...

คริสต์มาส เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ซึ่งคำว่า "Christmas" มาจากภาษาอังกฤษโบราณที่ว่า "Crīstes mæsse" ซึ่งแปลว่าการบูชามิสซาของพระคริสต์ พบคำนี้ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1038 (Masse หรือ พิธีมิซซาเป็นคำที่นิกายโรมันแคทอลิกใช้เรียกพิธีนี้ ส่วงทางโปรแตสแตนท์เรียกว่า "พิธีมหาสนิท" หรือ "Holy Communion")

การเฉลิมฉลองในวันคริสต์มาสนั้นมีมานานนับพันปี รวมถึงเรื่องราวและประเพณีการเฉลิมฉลองก็มีต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ ตามท้องถิ่น ดังนั้นรื่องราวและประวัติความเป็นมาจึงแตกต่างกันออกไป นอกจากนั้นการตั้งสมมติฐาน และหลักฐานของนักวิชาการหลายฝ่ายพบว่าปัจจัยของการคลาดเคลื่อนในวันที่ ความแตกต่างในการคำนวณปฏิทิน และบางประเทศที่ได้ปฏิเสธที่จะยอมรับการปฏิรูปปีปฏิทิน ส่งผลให้วันคริสต์มาสดังกล่าวนั้นอยู่ในวันที่ต่างกัน

ในความเป็นจริงแล้ว พระคัมภีร์ไม่ได้มีการจารึกไว้ว่าเป็นที่แน่ชัดว่าพระเยซูเกิดวันที่เท่าไร แต่ในช่วงวันที่ 17 ธันวาคม จนถึงวันที่ 13 มกราคม มักจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองในพื้นที่ต่างๆกันอย่างมากมาย เช่น การเฉลิมฉลองเกี่ยวกับการเกษตรและกสิกรรม การเฉลิมฉลองวันเกิดของเทพสุริยะ การเฉลิมฉลองการอย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ดังนั้นเมื่อคริสต์จักรได้รับแรงศรัทธาจากประชาชนเพิ่มขึ้น บทบาทในการเปลี่ยนแปลง ดัดแปลงเทศกาลหลายอย่างในอาณาจักรโรมัน และทดแทนด้วยวันคริสต์มาสจึงถือกำเนิดขึ้นด้วย ในวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปีนอกจากเป็นวันคริสต์มาสแล้ว ยังเป็นเวลาที่ซีกโลกเหนืออยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากที่สุดหรือภาษาอังกฤษ เรียกวันนี้ว่า "Winter Solstice" (วินเท่อร์ ซอล์ส-ทิซ) ถือเป็นวันที่หนาวที่สุดในฤดูหนาวเพราะมีกลางวันที่สั้น

การเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสแพร่หลายสู่หลายประเทศ การเรียกชื่อก็ไม่ได้มีแค่ Christmas เท่านั้น แต่มีอีกหลายคำดังนี้ค่ะ
- Christmastide (คริสต์มาส-ไทด์) = เทศกาลคริสต์มาส
- Christmastime (คริสต์มาส-ไทม์) = เทศกาลคริสต์มาส
- Christmas Season (คริสต์มาส ซีซั่น) = เทศกาลคริสต์มาส
- Noel (โนเอล) = เทศกาลคริสต์มาส/ เพลงคริสต์มาส
- Yule (จยูล) = ช่วงเทศกาลคริสต์มาส/ การฉลองคริสต์มาส
- Yuletide (จยูล-ไทด์) = ช่วงเทศกาลคริสต์มาส/ การฉลองคริสต์มาส

การเฉลิมฉลองของเทศกาลคริสต์มาสนี้จะทำกันอย่างต่อเนื่องค่ะ ตั้งแต่วันที่ 25 (หรือบางทีอาจจะก่อนหน้านั้น) จนกระทั่งวันที่ 6 ของเดือนมกราคมปีถัดมา ซึ่งช่วงนี้เราก็จะเรียกว่า Twelve Days of Christmas (ทเวล์ฟ เดย์ส์ ออฟ คริสต์มาส) อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.cresourcei.org/cy12days.html

เพลงที่เราใช้ประกอบในวันนี้มีหลากหลายเพลง เช่น Jingle Bells, Santa Claus is coming to town, Silent Night ส่วนมากแล้วจะไม่เรียกว่า Christmas Song (คริสต์มาส ซอง) แต่จะเรียกว่า Christmas Carol (คริสต์มาส แครอล) เช่น

Children enjoy Christmas Carol along way home.
(ชิลเดร้น เอ็นจอย คริสต์มาส แครอล อ-ลอง เวย์ โฮม)
เด็กๆสนุกสนานกับเพลงคริสต์มาสระหว่างทางที่กลับบ้าน

หลายครั้งที่เราเห็นว่า "Christmas" ถูกเขียนแทนด้วยตัว "X" เป็น "X'Mas" นั่นเพราะตัว "X" นั้นเป็นอักษรย่อของคำว่า "พระคริสต์" ในภาษากรีก ดังนั้น "X'Mas" จึงไม่ได้อ่านว่า "เอ็กซ์มาส" อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่อ่านได้ว่า "คริสต์มาส" ค่ะ

การกล่าวคำทักทายที่มักจะได้ยินในช่วงนี้ก็น่าจะเป็น "Merry Christmas" (เมรี่-คริสต์มาส) (ย้ำย้ำซ้ำซ้ำกันอีกนิดว่า Merry ออกเสียงว่า "เมรี่" ไม่ใช่ "เมอรี่" นะจ้ะ) ซึ่งคำว่า "Merry" (เมรี่) ในภาษาอังกฤษโบราณแปลว่า สันติสุขและความสงบทางใจ ดังนั้นจึงเป็นคำอวยพรขอให้ผู้อื่นได้รับสันติสุขและความสงบในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนี้ค่ะ และเพื่อเป็นการไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับ "Happy New Year" (แฮปปี้-นิวเยียร์) ครั้นจะกล่าวว่า "Happy Christmas" (แฮปปี้-คริสต์มาส) ก็ดูกระไรอยู่ จึงนิยมที่จะพูดว่า "Merry Christmas and Happy New Year" (เมรี่-คริสต์มาส-แอนด์-แฮปปี้-นิวเยียร์) มากกว่าค่ะ

จุดเด่นของเทศกาลนี้น่าจะอยู่ที่ Santa Claus (ซานตา คลอส) ที่จะมาแจกของขวัญเด็กๆ ในคืนวันก่อนวันคริสต์มาส หรือที่เราเรียกกันว่า คริสต์มาสอีฟ (Christmas' Eve) โดยบ้านของคุณซานตา คลอสอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ หรือ นอร์ธโพล (North Pole) มีกวางเรนเดียร์ 9 ตัว (Reindeer) ไว้เพื่อลากเลื่อนบรรทุกของ (Sleigh = เลื่อนบรรทุกของ อ่านว่า ส-เล) แต่ละตัวล้วนมีชื่อดังนี้ Dasher, Dancer, Prancer, Vixen, Comet, Cupid, Donner, Blitzen และ Rudolf เจ้ารูดอล์ฟนี้มาหลังเพื่อนแต่ที่โด่งดังมากว่าใครก็เป็นมันมีจมูกสีแดง จากเพลง "Rudolf the red nose reindeer" นั่นเองค่ะ

จริงๆแล้ว คุณซานตา คลอสเป็นเพียงแค่บุคคลในจินตนาการที่สร้างมาจากแรงบันดาลใจจากนักบวชที่ชื่อ เซนต์นิโคลัส ซึ่งเป็นนักบวชที่คอยช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อน แต่บุคลิก ลักษณะของคุณซานตา คลอสอย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้เป็นฝีมือของนักเขียนการ์ตูนชาวอเมริกัน ชื่อ โธมัส แนส ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1866

ภาพ: Christmas Tree By Flickr Website
ต้นคริสต์มาส เรียกว่า Christmas Tree (คริสต์มาส ทรี)

ก่อนวันคริสต์มาสจะมาถึง ตามบ้านเรือน อาคาร สถานที่ก็จะมีการประดับประดาไฟ และตกแต่งต้นคริสต์มาสนี้ คำว่า ตกแต่งต้นคริสต์มาส --- คำกริยา "ตกแต่ง" เราจะใช้คำว่า To decorate (ทู เด๊ก-คอ-เรท) และอุปกรณ์ตกแต่ง เราเรียกว่า Ornament (ออร์ นา เม้นท์) ลองดูประโยคนะคะ

Family member will help each other to decorate the Christmas Tree before Christmas comes. (แฟมมิลี่ เมมเบอร์ วิล เฮล์ป อีช อาเธอร์ ทู เดคคอเรท เดอะ คริสต์มาส ทรี บีฟอร์ คริสต์มาส คัมส์) แปลว่า สมาชิกในครอบครัวมักจะช่วยกันตกแต่งต้นคริสต์มาสก่อนที่วันคริสต์มาสจะมาถึง

ภาพ: Poinsettia By Flickr Website

ส่วนที่เป็นต้นไม้แล้วมีใบสีแดงๆ ที่บ้านเราเรียกต้นคริสต์มาสนั้น มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Poinsettia (พ้อยน์-เซ็ทเทีย) ค่ะ

บางท่านอาจจะเคยได้ยิน คำว่า Commonwealth (คา-มึน-เวล์ธ) หรือ British Commonwealth Of Nations (บริทิช คามึนเวล์ธ ออฟ เนชั่นส์) ซึ่งหมายถึง กลุ่มประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ หรือกลุ่มเครือจักรภพ เช่น ประเทศไอร์แลนด์ อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย แทนซาเนีย ทรินิแดด ฯลฯ ประเทศเหล่านี้จะมีประเพณีที่เรียกว่า Boxing Day (บ็อกซิ่ง เดย์) ไม่ได้แปลว่า วันต่อยมวยหรืออะไรทำนองนั้นคะ แต่คำนี้มีที่มาจากการที่นายจ้างมักจะให้ของขวัญลูกน้องในวันนี้ หรือนำของขวัญไปบริจาคแบ่งปันให้กับคนยากจน หรือบริจาคเงินในกล่องรับบริจาค และตามร้านค้าในที่ต่างๆมักจะนำของมาลดราคากันอย่างมาก ดูจากรูปภาพด้านล่างคงจะเห็นการรอคอย ต่อแถวซื้อของในวันบ็อกซิ่งเดย์นี้ และวันนี้ถือเป็นวันหยุดอีก 1 วันหลังวันคริสต์มาส (ส่วนมากจะเป็นวันที่ 26 แต่บางครั้งอาจจะเลื่อนเป็น 27 หรือ 28 ก็ได้แล้วแต่จะกำหนดในแต่ละประเทศ)

คำว่าของขวัญวันคริสต์มาสเราเรียกได้หลายแบบ..
Christmas Gift (คริสต์มาส กิ๊ฟ)
Christmas Present (คริสต์มาส เพร่เซ่นท์)
Christmas Box (คริสต์มาส บ็อกซ์)

ที่มาของคำว่า Boxing Day มาจาก คำว่า Christmas Box และการบริจากเงินลงในกล่องรับบริจาคซึ่ง "กล่อง" ในภาษาอังกฤษก็คือคำว่า Box (บ็อกซ์) นั่นเองค่ะ หรือในบางประเทศรู้จักวันบ็อกซ์ซิ่งเดย์ในอีกชื่อหนึ่งคือ St. Stephen's Day (เซ้นท์ สตีเฟ่นส์ เดย์)

ภาพ: Boxing Day By Wiki Website

นอกจากกิจกรรมในครอบครัวแล้ว ยังมีกิจกรรมที่มักจัดและทำในวันนี้มีหลากหลายค่ะ อย่างในประเทศหรือเมืองที่ติดกับชายฝั่ง ก็มักจะจัด Boxing Day Dip (บ็อกซ์ซิ่ง เดย์ ดิ๊ป) คือจะมีประชาชนที่เป็นผู้เข้าร่วมแต่งตัวแบบแฟนซี (Fancy Dress-แฟนซี เดรส) ทำการลุยน้ำ กระโดดน้ำ เพื่อนำเงินที่ได้ไปบริจาค นอกจากนั้นยังมีการแข่งขันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การแข่งม้า (Horse Racing-ฮอร์ส เรสซิ่ง), แข่งฟุตบอล (Football Match-ฟุตบอล แมช), รักบี้ (Rugby) และอื่นๆอีกมากมายค่ะ

เขียนมาค่อนข้างยาว จริงๆแล้วจากประสบการณ์ของผู้เขียนเองก็ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรมากมายเกี่ยวกับวันคริสต์มาสนี้หรอกค่ะ ต้องใช้เวลาหาข้อมูลอยู่นานกว่าจะเขียนออกมาเป็นบทความนี้ได้ ผู้อ่านอาจจะรู้สึกว่าไม่ได้ชิดแชท ไม่ได้เรียนรู้ประโยคมากเท่าไร แต่ผู้เขียนเองมองว่ามีคำศัพท์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจจึงนำเสนอในรูปแบบที่อาจจะต่างออกไปเล็กน้อย แต่หากมีข้อติชม หรือเสนอแนะก็ยินดีที่จะรับนำไปปรับปรุงค่ะ วันนี้ต้องลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่คราวหน้า

Wish you a merry Christmas and a happy New Year!

คริสต์มาสแบนเนอร์


เป็นแบบเนอร์ที่สรรค์สร้างขึ้นมาเองกับมือ พยามโหลด แต่ภาพมันไม่เปลี่ยนให้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันค่ะ หากใครพอจะทราบว่าทำไม ช่วยคอมเม้นท์ไว้ให้ จะช่วยได้มากเลยค่ะ
ถ้าอยากดูก็คลิ้กได้ที่ภาพ แล้วรีเฟรชสักที ก็จะเห็นคำอวยพรจากใจผู้เขียน
ชอบคุณที่ติดตามค่ะ

ม่วนชื่นกับ SEA GAMES

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่านเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ หวังว่าคุณผู้อ่านคงสบายดีและม่วนชื่นไปกับการอ่านบทความของดิฉันนะคะ อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าการเรียนรู้ไม่ได้อยู่แค่ในตำรา เราสามารถหาข้อมูลใหม่ๆได้ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ป้ายโฆษณา หรือเมนูในร้านอาหาร ก็ถือเป็นการเพิ่มความรู้รอบตัวไปพร้อมกับการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็นเลยทีเดียว ลองหาสมุดเล็กๆ มาจดคำศัพท์ที่เราได้เรียนรู้ในแต่ละวัน เพียงแค่ระยะเวลาไม่นาน เราก็จะได้คลังคำศัพท์ของเราเอง และมั่นเอามาเปิดดูและออกเสียงกันบ่อยๆ เท่านี้ก็ช่วยเพิ่มทักษะของเราได้อย่างไม่น่าเชื่อแล้วละค่ะ และสำหรับสัปดาห์นี้ ขอเสนอเรื่องราวของซีเกมส์ค่ะ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มเรียนรู้คำศัพท์และเรื่องราวสนุกๆ กันได้แล้วค่ะ...

ซีเกมส์ หรือ SEA GAMES: South East Asia Games (เซ้าธ์-อีสต์-เอเชีย-เกมส์) ถือกำเนิดมาจากกีฬาแหลมทอง หรือที่เรารู้จักกันดีในนามของ SEAP GAMES (เซียพ-เกมส์)

(นอกรอบ) เคยมีเพื่อนฝรั่งคนหนึ่งถามว่า
"What does "SEAP GAMES" stand for?"
(ว้อท-ดาส-เซียพ-เกมส์-สแตน-ฟอร์) เราก็งง “เอ๊ะมาสแตนฟง สแตนฟอร์อะไรกันนี่ ...จะมายืนเพื่อฉัน ข้างฉันทำไม ไม่ต้องไม่เอา” พอวันเวลาผ่านไป ภาษาอังกฤษเริ่มแข็งแกร่ง ก็เข้าใจในบัดดลว่า ไอ้ที่เค้าถามน่ะ มันแปลว่า SEAP GAMES นั้นย่อมาจากอะไร (อ่ะ ฉันนี่สะเหร่อข้ามปีจริงๆ)

เวลาตอบ ก็แสนจะง่าย ทวนคำถามมาตอบเลยจ้ะ โดยการแทน What ด้วย It แล้วดึง stand for มาต่อท้าย (ผันกริยาด้วยการเติม s เพราะประธานเป็นเอกพจน์) จะได้ It stands for South East Asia Peninsular Games. (อิท-สแตนส์-ฟอร์-เซ้าธ์-อีสต์-เอเชีย-เพนนินสูล่า-เกมส์) แปลเป็นไทยได้ว่า “มันย่อมาจาก South East Asia Peninsular Games” นั่นเองค่ะ

ที่นี้คุณผู้อ่านก็ได้ประโยคเก๋ๆไว้ถามเวลาสงสัยว่า ตัวย่อนั้น/ตัวย่อนี้ ย่อมาจากอะไรแล้วนะค่ะกับประโยค "What does "______" stand for?"
เวลาตอบก็ "It stands for______."

เรียนรู้ จดจำ แล้วต้องนำไปใช้ด้วยนะคะ รับรองว่าเป็นการพัฒนาภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียวค่ะ

ออกนอกเรื่องเสียนาน กลับมาเรื่องราวของ SEAP GAMES กันต่อค่ะ

SEAP GAMES หรือ กีฬาแหลมทองนั้น เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2500 โดยคุณหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ ระยะเวลานั้นประเทศเพื่อนบ้านเราได้มีการส่งสาสน์ให้ไปแข่งกีฬาด้วยเป็นประจำ คุณหลวงจึงบังเกิดไอเดียว่า “น่าจะมีการจัดแข่งกีฬาระหว่างชาติขึ้นในกลุ่มแหลมทอง” คล้ายกับเอเชี่ยนเกมส์ หรือ โอลิมปิคเกมส์ เพื่อเป็นการสรรค์สร้างความสัมพันธ์และกระชับไมตรีระหว่างชาติเพื่อนบ้านด้วยกัน

ระหว่างเดือนธันวาคม พ.ศ. 2502 จึงได้มีการจัดกีฬาแหลมทองครั้งแรกขึ้นที่กรุงเทพฯ โดยมี 6 ชาติเข้าร่วม ได้แก่ พม่า ลาว ไทย เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย และได้มีการแข่งขันเรื่อยๆ มา จนกระทั่งปี พ.ศ. 2518 ซึ่งเป็นการจัดกีฬาแหลมทองครั้งที่ 8 ถือเป็นกีฬาแหลมทองครั้งสุดท้ายที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง และที่ประชุมมีมติให้เปลี่ยนชื่อเป็น ซีเกมส์ หรือ SEA GAMES ในการแข่งขันประเทศเจ้าภาพจะเป็นผู้คัดเลือกกีฬาแต่ละชนิด แต่มีข้อกำหนดว่าต้องมีนักกีฬาจากต่างประเทศ อย่างน้อย 3 ประเทศเข้าร่วมในการแข่งกีฬาชนิดนั้น

เรามาดูกริยา"เข้าร่วม" กันหน่อยนะคะ
คำว่าเข้าร่วม ภาษาอังกฤษใช้คำว่า "To participate"
(พาร์-ทิ-สิ-เพท = เข้าร่วม/ สมทบ/ มีส่วนร่วม) เช่น
The first of SEAP GAMES, there were six nations participated.
(เดอะ เฟิร์สต ออฟ เซียพ เกมส์ แดร์ เวอร์ ซิกส์ เนชั่นส์ พาร์ทิสิเพททึด)
ในการแข่งขั้นกีฬาเซียพเกมส์ครั้งแรกมี 6 ชาติเข้าร่วม

ส่วนคำว่า "ผู้เข้าร่วม" เราใช้คำว่า "participant" (พาร์-ทิ-สิ-แพ้นท์) เช่น Mynmar was the one of SEAP GAMS participant. (เมียนม่า วอส เดอะ วัน ออฟ เซียฟ เกมส์ พาร์ทิสิแพ้นท์) แปลว่า พม่าเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเซียพเกมส์

"participant" สามารถใช้ในกรณีอื่นก็ได้ค่ะ เช่น

How many meeting participants today?
(ฮาว เมนี่ มีททิ่ง พาร์ทิสิแพ้นส์ ทูเดย์)
แปลว่า ผู้เข้าร่วมประชุมวันนี้มีกี่คน

"participant" จะหมายถึง ผู้เข้าร่วม ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก แต่หากเราใช้ว่า "member" นั่นหมายถึง สมาชิก เช่น Thai is the one of WTO member. (ไทย อีส เดอะ วัน ออฟ ดับเบิ้ลยู ที โอ เมมเบอร์) ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์กรการค้าระหว่างประเทศ

เอาล่ะ...เราลองมาดูคำศัพท์ หรือ Vocabulary (โว-แคพ-บุ-หระ-ลี่) ที่เกี่ยวข้องบ้างนะค่ะ เริ่มจาก....

# นักกีฬา ใช้คำว่า Athlete(s) อ่านว่า แอท-ลีท(ส์)
นักกีฬาในที่นี้ หมายถึงนักกีฬาทั่วไปไม่ได้เฉพาะเจาะจงชนิดใดชนิดหนึ่ง เช่น

My friend is one of athlete from Singapore.
(มาย เฟรน อีส วัน ออฟ แอทลีท ฟรอม สิงคโปร์)
เพื่อนของฉันเป็นนักกีฬาจากประเทศสิงคโปร์

# ว่ายน้ำ หรือ Swimming (สวิมมิ่ง) แยกประเภทได้ดังนี้
- ท่าฟรีสไตล์ หรือ Freestyle (ฟรี สไตล์)
- ท่ากรรเชียง หรือ Backstroke (แบค สโตรค)
- ท่าผีเสื้อ หรือ Butterfly (บัตเทอร์ฟลาย)
- ท่ากบ หรือ Breaststroke (เบรสต์ สโตรค)

# กรีฑา หรือ Athletics (แอทลีติกส์)
แบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น
- วิ่ง 100 เมตร /400 เมตร/800 เมตร หรือ 100 M. /400 M. /800 M.
- วิ่งมาราธอน หรือ Marathon (มาราธอน)
- พุ่งแหลน หรือ Javelin Throw (แจฟ-ลิน โธรว์)
- ขว้างจักร หรือ Discus Throw (ดิสคัส โธรว์)
- ข้ามรั้ว หรือ Hurdle (เฮอร์เดิล)
- วิ่งผลัด ใช้คำว่า Relay (รีเลย์) เช่น วิ่งผลัด 4 x 100 เมตร
พูดได้ว่า 4 x 100 m. Relay (โฟร์ ไทม์ ฮันเดร็ด เมเทอร์ส์ รีเลย์)

# ยิงธนู หรือ Achery (แอช-เช-รี่)

# มวยสากล หรือ Boxing (บ็อกซิ่ง)
มวยไทย ใช้ทับศัพท์ว่า Muaythai (มวย-ไทย)

# ยูโด หรือ Judo (จูโด)

# เพาะกาย หรือ Bodybuilding
(บอดี้-บิ้ลด์ดิ้ง)

# ลีลาศ หรือ Dancesport (แดนซ์-สปอร์ต)

# เรือกรรเชียง หรือ Rowing (โรว-อิ่ง)
-เรือใบ หรือ Sailing (เซล-ลิ่ง)
-เรือแคนู หรือ Canoeing (คานู-อิ่ง)
-เรือยาวประเพณี หรือ Tradition Boat Race (เทรดดิชึ่น-โบ๊ท-เรซ)

# ฟันดาบ หรือ Fencing (เฟ้นซ์-ซิ่ง)

# ขี่ม้า หรือ Equestrian (อิ-เควส-เทรียน)

# ยิงปืน หรือ Shooting (ชู้ต-ติ้ง)

# นั่นเป็นบางส่วนสำหรับคำศัพท์ในส่วนของกีฬา ทีนี้ลองมาดูคำศัพท์ด้านอื่นๆบ้างนะคะ เริ่มด้วยในส่วนของสถานที่ เราใช้คำว่า Venue (เว-นู) เช่น

The gymnastic competition will be held at Korat Venue.
(เดอะ จิมนาสติก คอมเพ็ทติชั่น วิล บี เฮลด์ แอ็ท โคราช เวนู)
การแข่งขันยิมนาสติกจะถูกจัดขึ้นที่โคราช

# สนามกีฬา ใช้คำว่า Stadium (สเตเดี้ยม)ในการแข่งขันครั้งนี้ได้มีการก่อสร้างสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า
His Majesty the King’s 80 Birthday Anniversary Stadium (5 December, 2007)
(ฮีส-มาเจสตี้-เดอะ-คิงส์-เอทที้ส์-เบิร์ดเดย์-แอนนิเวอร์แซรี่-สเตเดี้ยม)

# ส่วนคำว่า ตารางการแข่งขัน ใช้คำว่า
Competition Schedule (คอมเพ็ททิชั่น-สเกดู้วล)

# พิธีมอบรางวัล คือ คำว่า Awarding Ceremony
(อะวอร์ดดิ่ง ซีเรโมนี่) โดยที่...

- The First Prize will get gold medal.
(เดอะ เฟิร์ส ไพรส์ วิล เก็ท โกลด์ เมดดัล)
ผู้ที่ได้รับรางวัลที่ 1 จะได้เหรียญทอง

- The Second Prize will get silver medal.
(เดอะ เซคคึน ไพรส์ วิล เก็ท ซิลเว่อร์ เมดดัล)
ผู้ที่ได้รับรางวัลที่ 2 จะได้เหรียญเงิน

- The Third Prize will get bronze medal.
(เดอะเติร์ด ไพรส์ วิล เก็ท บร้อนซ์ เมดดัล)
ผู้ที่ได้รับรางวัลที่ 3 จะได้เหรียญทองแดง

# ส่วนคำว่า ถ้วยรางวัล เราจะใช้คำว่า Trophy (โทรฟี่)

# ทิ้งท้ายเล็กๆน้อยกับประโยคคำถาม เมื่อต้องการถามใครสักคนว่า
- คุณชอบกีฬาชนิดไหน จะพูดว่า
What is your favorite sport?
(ว้อท-อีส-ยัวร์-เฟเวอริท-สปอร์ต)

เวลาตอบๆได้หลายแบบค่ะ ตัวอย่างเช่น

1. ตอบชื่อกีฬาเฉยๆ เช่น
A: What is your favorite sport?
B: Football.

2. ตอบแบบทวนคำถาม
A: What is your favorite sport?
B: My favorite sport is football.

3. ใช้ I love.. หรือ I like.. ขึ้นประโยค
A: What is your favorite sport?
B: I love/ like footbal.

4. ใช้ It is.. ขึ้นประโยค
A: What is your favorite sport?
B: It is football.

เรียนรู้เรื่องราวของประโยคและคำศัพท์ไปแล้ว อย่าลืมที่จะจดจำ และนำไปใช้นะคะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่คุณผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ มั่นฝึกฝนและสร้างความเคยชินในการออกเสียงก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะสามารถพัฒนาภาษาอังกฤษของเราได้ดียิ่งขึ้นค่ะขอบคุณคุณผู้อ่านที่ติดตามและให้กำลังใจค่ะ
วันนี้ขอลาไปก่อนแล้ว พบกันใหม่คราวหน้า
สวัสดีค่ะ

Mistletoe


Mistletoe (มิสเซิลโท) เป็นวัชพืชชนิดหนึ่งของประเทศแถบตะวันตก และยังเป็นดอกไม้ประจำรัฐโอกลาโฮม่า ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย มักนำมาตกแต่งเป็นสัญลักษณ์ในวันคริสมาส มักใช้ประดับตามประตู หรือทำเป็นช่อใหญ่ๆ แขวนติดตามฝาพนังหรือกำแพงในวันคริสมาส บางความเชื่อกล่าวว่าประดับไว้ได้ทั้งปีเพื่อป้องกันไฟไหม้หรือฟ้าผ่าได้และจะทำการเปลี่ยนช่อใหม่ในวันคริสมาสอีฟของปีหน้า
และอีกความเชื่อหนึ่งของชาวคริสตศาสนิกชนก็คือ หากคู่รักคู่ใดได้มาอยู่ใต้ช่อมิสเซิลโทนี้ล่ะก็ จะถูกกำหนดให้มาจูบกันและจะถือเป็นสัญญาแห่งรักตราบนานเท่านาน ที่นี้ใครที่อ่านหรือดูแฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาค 5 (ภาคีนกฟีนิกซ์) ก็คงหายข้องใจกันไปบ้างแล้วว่าทำไมตอนแฮร์รี่จูบกับโชจึงมีช่อมิสเซิลโทผลิออกมา (แต่ เอ..คู่นี้คบกันไม่ยักนานแฮะ!)